“ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่?” “ไม่ตอบเลยน๊า หรือว่าติดงาน?” “หรือเขาจะยุ่งจริงๆ?” แต่นี่ก็เกือบจะหมดวันแล้ว ทำไมถึงไม่ตอบเลยล่ะ เสียงในหัวยังคงวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา และความคิดเหล่านี้ก็ยิ่งถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ หากคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ขอให้รู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ และมันไม่ผิดอะไรเลยที่คุณจะเผลอเอาใจลงไปเล่น
เพราะในยุคที่เทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างสะดวกยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก การส่งข้อความหากันกลายเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็ทำได้ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสเราก็สามารถเปิดบทสนทนาที่เต็มไปด้วยอีโมจิและสติ๊กเกอร์น่ารักๆ เพื่อบอกความคิดถึงหรือบอกรักกันทุกเช้าเย็น
เมื่อคนสองคนเริ่มคุยกันและถูกใจจนขยับสถานะจากคนแปลกหน้ามาเป็น ‘คนคุย’ แน่นอนว่าทุกอย่างในช่วงแรกมักหวานหอมและตื่นเต้นแบบที่หลายคนเรียกว่า ‘ช่วงโปรโมชัน’
ฝ่ายหนึ่งส่งข้อความถามไถ่ อีกฝ่ายตอบกลับพร้อมคำพูดหวานๆ ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ทุกคำถาม ทุกข้อความที่แลกเปลี่ยนกันคือการเรียนรู้ซึ่งกันและกันของวัยรุ่นยุคปัจจุบันนี้ เหมือนทุกอย่างจะดีไปหมด จนกระทั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มรู้สึกมากขึ้น ในขณะที่อีกฝ่ายเหมือนจะค่อยๆ ถอยห่างออกไป จนอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกสงสัยว่าความสัมพันธ์ในลักษณะนี้จะไปต่อหรือพอแค่นี้?
ในมุมของจิตวิทยา การรอคอยคำตอบหรือรอคอยการตอบสนองจากอีกฝ่ายอย่างไม่แน่นอนในความสัมพันธ์อาจสร้างความเครียดสะสมและทำให้เกิดภาวะบั่นทอนใจในที่สุด งานวิจัยพบว่าความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์สามารถทำให้เรารู้สึกเครียดและลดความมั่นใจในตัวเองได้
ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์นี้ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม ไม่มีท่าทีที่จะพัฒนาไปไหน ไม่มีสัญญาณตอบกลับหรือความชัดเจนใดๆจากเขา คุณอาจต้องหันมาถามตัวเองว่าคุณอยู่ในจุดไหนกับความสัมพันธ์นี้ และถ้าคุณตัดสินใจที่จะคุยต่อ คุณพร้อมรับความรู้สึกที่อาจจะถูกบั่นทอนอีกไหม?
ยกตัวอย่างสถานการณ์ เช่น วันเกิดหรือวันสำคัญที่คุณหวังว่าจะได้รับการตอบกลับจากเขา แต่กลับไร้วี่แวว นั่นอาจทำให้คุณรู้สึกว่าความสัมพันธ์เริ่มไม่มีความหมาย และทำให้เกิดคำถามในใจว่าคุณยังควรทุ่มเทกับคนนี้อยู่ไหม
หากการรอคอยนี้ทำให้คุณเริ่มรู้สึกหมดแรงและท้อแท้ จนอาจส่งผลต่อความสุขของตัวเอง การปล่อยเขาไปอาจเป็นสิ่งที่ดีกว่า บางครั้งการเลือกที่จะรักตัวเองและเลือกความสุขของตัวเองนั้นสำคัญพอๆ กับการรักใครสักคน การกลับมาทำสิ่งที่คุณชอบ ทำกิจกรรมที่สร้างความสุขให้ตัวเองอาจช่วยให้คุณไม่หมกมุ่น ไปจนถึงพาคุณออกจากความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนนี้ได้
ท้ายที่สุดแล้วคนที่จะตอบคำถามว่า “ความสัมพันธ์ในลักษณะนี้จะไปต่อหรือพอแค่นี้?” ได้อย่างชัดเจนที่สุดคือ ตัวคุณเอง ถ้าสถานะคนคุยของคุณไม่พัฒนาต่อไปสู่การเป็นคนรักหรือใครก็ตามที่มีความสำคัญในชีวิตของเขา สิ่งที่ควรทำคือการพาตัวเองออกมาจากความคลุมเครือนั้น แล้วกลับไปเป็นตัวคุณก่อนหน้านี้ และใช้ชีวิตให้มีความสุข
จงจำไว้เสมอว่า “อย่ารอคนอื่นจนลืมให้ค่าตัวเอง”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews