“เขาว่าสายตามันหลอกกันไม่ได้ เขาพูดกันว่าสายตามันเป็นสิ่งเดียวที่พูดแทนหัวใจ”
ท่อนน่ารักจากเพลง สายตาหลอกกันไม่ได้ ของนักร้องสุดคิ้วท์ อิ้งค์ วรันธร ชวนเราตั้งคำถามว่าสายตาโกหกกันไม่ได้จริงหรือเปล่า? วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน!
เหลือบซ้ายนึก เหลือบขวากำลังโกหก จริงไหม?
หนึ่งในทฤษฎีที่เคยได้รับความนิยมคือการบอกว่า หากใครเหลือบตามองไปทางซ้าย แปลว่าเขากำลังนึกถึงความจริง แต่ถ้าเหลือบตามองขวา อาจหมายถึงเขากำลังแต่งเรื่องหรือโกหก! ทฤษฎีนี้ถึงขั้นมีข่าวลือว่า FBI ใช้กันเลยทีเดียว
แต่…ผลการศึกษาในปัจจุบันกลับหักล้างทฤษฎีนี้ นักวิจัยด้าน Neuro-Linguistic Programming (NLP) และนักจิตวิทยาหลายคนได้ทดลองซ้ำๆ และพบว่า การเคลื่อนไหวของดวงตาไม่ได้สัมพันธ์กับความจริงหรือการโกหกแต่อย่างใด
แม้ทฤษฎีจะผิด แต่สายตายังคงสื่อความรักได้เสมอ
แม้ดวงตาอาจไม่ได้บอกว่าใครโกหกหรือพูดจริง แต่ในเรื่องของความรักและความรู้สึก ดวงตายังคงเป็นหน้าต่างของหัวใจ เช่น อาการหลบสายตาเวลามองคนที่ชอบ บ่งบอกถึงความเขินและความจริงใจ…นี่แหละที่สายตาหลอกกันไม่ได้จริงๆ
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับสายตา เช่น
- การจ้องตา ช่วยให้จดจำบทสนทนาได้ดีขึ้น
- การสบตา กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน Oxytocin ที่ช่วยสร้างความรู้สึกผูกพันและรักมากขึ้น
4 พลังของการจ้องตา
- การสบตาทำให้เกิดความตื่นตัว
การจ้องตากระตุ้นอารมณ์ได้ หากมองด้วยสายตาที่แปลก อาจรู้สึกถูกคุกคาม แต่ถ้ามองจากคนใกล้ชิดหรือแฟน จะช่วยเพิ่มความตื่นตัวในทางที่ดี - ดวงตาช่วยบอกว่ามีความสุขจริงไหม
รอยยิ้มที่มาจากความสุขจริงมักมาพร้อมกับ “ตายิ้ม” หรือตีนกาเล็กๆ ที่บ่งบอกความจริงใจ - ดวงตาบอกถึงความสนใจ
เมื่อสนใจอะไรจริงๆ หรือสนใจคนตรงหน้า รูม่านตาจะขยายออกโดยอัตโนมัติ - การจ้องตากันสื่อถึงความรัก
การจ้องตาช่วยกระตุ้นสาร Oxytocin และสื่อถึงความรู้สึกรักได้อย่างชัดเจน
สายตา…โกหกความรู้สึกไม่ได้
แม้ทฤษฎีเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของสายตาจะไม่จริง แต่ในความสัมพันธ์ ความรู้สึกที่แฝงอยู่ในสายตานั้นโกหกกันไม่ได้จริงๆ ถ้าอยากหลอกใครก็แล้วแต่ แต่ขอร้อง…อย่าหลอกฉันเลยนะ! แฮร่!
ติดตาม iNN • ไม่พลาดทุกกระแสอินเทรนด์
อย่าลืมกดถูกใจและติดตาม iNN ได้ในทุกช่องทาง เพื่อไม่พลาดทุกเรื่องน่าสนใจและบทความดีๆ แบบนี้!
ขอขอบคุณข้อมูล