ลองจินตนาการถึงผิวที่กระชับ เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์เหมือนย้อนเวลาได้ หลายคนอาจคิดว่าต้องพึ่งพาสกินแคร์ราคาแพงหรือทรีตเมนต์ผิวหน้าซ้ำๆ แต่ในยุคนี้ที่เทคโนโลยีการแพทย์และความงามเติบโตยิ่งขึ้น เรามีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ชวยฟื้นฟู ดูแลผิวเกิดขึ้นอย่างหลากหลาย จนกลายเป็นเทรนด์ความงามที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจ เพราะได้ผลลัพธ์งานผิวแบบตรงจุด! Sculptra เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยม เรียกได้ว่า รีวิวแน่นทุกแพลตฟอร์ม ด้วยสามารถช่วยฟื้นฟูผิวแบบล้ำลึกจากภายใน เสริมผิวให้กระชับ และลดเลือนริ้วรอยต่างๆ แบบเห็นผลได้ชัด แถมไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาผิวหน้าแบบชั่วคราว แต่ยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวอีกด้วย! ใครที่ยังไม่รู้จัก Sculptra อยากรู้ว่า Sculptra คืออะไร ทำงานอย่างไร เหมาะกับแก้ปัญหาผิวของคุณหรือไม และแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์แบบเดิมอย่างไร มาเริ่มทำความรู้จักไปพร้อมกันในบทความนี้เลย!
Sculptra คืออะไร?
Sculptra เป็นสารเติมเต็มในกลุ่ม Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่เป็นเหมือนโครงสร้างหลักของผิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับและดูเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูโครงสร้างของผิวให้ดูอิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้ง Sculptra ยังได้รับการรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ว่ามีความปลอดภัย เหมาะสำหรับการใช้เพื่อฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวในระยะยาว
หลายคนอาจคุ้นเคยกับการเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าด้วยฟิลเลอร์ แต่ Sculptra แตกต่างตรงที่ไม่ได้แค่เติมเต็มทันที แต่จะช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างผิวใหม่จากภายในอย่างเป็นธรรมชาติ เปรียบเสมือนการดูแลผิวจากรากฐาน เพื่อให้ผิวกลับมาแข็งแรง เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ในระยะยาวนั่นเอง
Sculptra ทำงานอย่างไร?
การทำงานของ Sculptra นั้นแตกต่างจากการฉีดสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ทั่วไป โดย Sculptra จะถูกฉีดเข้าไปในชั้นผิว Dermis (ชั้นหนังแท้) และทำหน้าที่เสมือนโครงสร้างค้ำจุนผิว จากนั้นสาร PLLA จะกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เห็นในทันที แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 4-6 สัปดาห์ ผลลัพธ์ยู่ได้นานถึง 2 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล ทั้งยังช่วยให้ใบหน้าดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งหรือตึงจนเกินไป
Sculptra เหมาะกับใคร?
Sculptra เหมาะกับคนที่อยากฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวหน้า ให้ผิวดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยหรือขาดความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็น
● ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น
● ผู้ที่มีปัญหาร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ขมับลึก หรือใต้ตา
● ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
● ผู้ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็ง หรือเปลี่ยนไปจนคนอื่นสังเกตได้
● ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ยาวนาน เพราะผลลัพธ์อยู่นานกว่า 2 ปี
Sculptra VS Filler ต่างกันอย่างไร?
Sculptra จะช่วยซ่อมแซมผิวแบบฟื้นฟูจากภายใน ในขณะที่ Filler จะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุดแบบเร่งด่วน แม้ว่าทั้งสองแบบนี้จะอยู่ในกลุ่มของการฉีดสารเติมเต็มใบหน้าเหมือนกัน แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยจะมีความแตกต่างกันหลักๆ ดังนี้
● Sculptra: มีสารประกอบหลัก Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในโดยการกระตุ้นคอลลาเจน ผลลัพธ์ที่ได้จึงดูเป็นธรรมชาติ โดยจะเห็นผลใน 4-6 สัปดาห์ และอยู่ได้นานกว่า 2 ปี เลย
● Filler: มีสารประกอบหลัก Hyaluronic Acid (HA) เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวแบบเฉพาะจุด เช่น การเติมเต็ม หรือการปรับรูปหน้าเฉพาะจุด สามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และอยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเกี่ยวกับ Sculptra นวัตกรรมความงามยุคใหม่ที่ตอบโจทย์คนรักผิวที่ต้องการความอ่อนเยาว์ และผลลัพธ์งานผิวแลดูเป็นธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาผิวเฉพาะหน้า แต่คือการฟื้นฟูผิวจากภายในเพื่อผลลัพธ์ที่ดูดีในระยะยาว และสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นดูแลผิว ที่ Better Me Clinic by Dr.Chanya คลินิกดูแลผิวพรรณและความงามระดับพรีเมียม เราให้ความสำคัญกับการออกแบบการดูแลผิวที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล พร้อมนวัตกรรมและเทคนิคที่ทันสมัย มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัย ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติอย่ารอช้าที่จะดูแลตัวเอง เพราะความมั่นใจเริ่มต้นได้ที่ผิวของคุณ สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-059-8118, 088-603-2641 หรือไลน์ @bettermeclinic