หนังตาตก ตาง่วง ส่งผลอย่างไรกับการใช้ชีวิต
อาการตาปรือ ตาง่วงเป็นสัญญาณเตือนของภาวะหนังตาตกที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน บางคนอาจจะรู้สึกว่าตาปรือ ตาง่วง ตลอดเวลาแม้จะนอนเพียงพอแล้วก็ตาม ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากอะไร และหากปล่อยไว้นานจะส่งผลเสียอย่างไรกับการใช้ชีวิตบ้างไปดูกัน
หนังตาตก ตาง่วง มีลักษณะอย่างไร
หนังตาตกมีลักษณะเด่นคือหนังตาบนหย่อนคล้อยลงมาปิดบางส่วนของดวงตา ทำให้เกิดอาการตาปรือและดูเหมือนง่วงนอนตลอดเวลา ระดับความรุนแรงมีตั้งแต่เล็กน้อยที่สังเกตได้เพียงดวงตาดูเล็กลง ไปจนถึงขั้นรุนแรงที่หนังตาปิดกระจกตาดำเกือบทั้งหมด บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะจากการที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อรอบดวงตา
หนังตาตก ตาง่วง เกิดจากอะไร
อาการตาปรือและหนังตาตกเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยที่ติดตัวมาแต่กำเนิด การเปลี่ยนแปลงตามวัย และผลจากการผ่าตัด การเข้าใจสาเหตุจะช่วยให้เลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม
พันธุกรรม
พันธุกรรมเป็นสาเหตุสำคัญของอาการตาปรือและหนังตาตก เมื่อยีนส์ที่ควบคุมการพัฒนาของกล้ามเนื้อยกหนังตามีความผิดปกติ ทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงน้อยกว่าปกติตั้งแต่กำเนิด นอกจากนี้ โครงสร้างของเบ้าตาและปริมาณไขมันรอบดวงตาที่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม ก็ส่งผลต่อการเกิดอาการตาปรือได้เช่นกัน
อายุ
เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนความเสื่อมของร่างกายทำให้เกิดอาการตาปรือและหนังตาตกได้มากขึ้น กล้ามเนื้อยกหนังตาและเนื้อเยื่อรอบดวงตาเริ่มอ่อนแรง ประกอบกับการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้หนังตาหย่อนคล้อย โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทองที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
เคยผ่าตัดตาสองชั้น
การผ่าตัดตาสองชั้นที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดอาการตาปรือและหนังตาตกในระยะยาว การตัดกล้ามเนื้อมากเกินไปทำให้เกิดแผลเป็นที่ดึงรั้งหนังตา หรือกล้ามเนื้อยกหนังตาทำงานได้ไม่เต็มที่ รวมถึงการดูแลแผลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดพังผืดและตาปรือในภายหลัง
ปล่อยไว้นานส่งผลกับการใช้ชีวิตอย่างไร
ภาวะหนังตาตกและอาการตาปรือส่งผลต่อคุณภาพชีวิตหลายด้าน ทั้งการมองเห็น ความมั่นใจ และการแต่งหน้า การปล่อยไว้อาจทำให้ปัญหาเหล่านี้รุนแรงขึ้น
บดบังการมองเห็นเพราะหนังตาที่หย่อนลงมาปิด
อาการตาปรือและหนังตาตกทำให้ลานสายตาแคบลง มองเห็นไม่ชัดโดยเฉพาะเวลามองขึ้นข้างบนหรือในที่มีแสงน้อย ส่งผลต่อการอ่านหนังสือ ขับรถ หรือทำงานที่ต้องใช้สายตา บางรายต้องเงยหน้าหรือใช้นิ้วช่วยยกหนังตา ทำให้เกิดอาการปวดคอและปวดศีรษะ
ดูแก่กว่าวัย
อาการตาปรือและหนังตาตกทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและแก่กว่าอายุจริง ดวงตาดูเล็กลง มีเงาใต้ตาเข้ม และอาจมีถุงใต้ตา ส่งผลให้ใบหน้าดูอิดโรย ขาดความสดใส การยกคิ้วบ่อย ๆ ยังทำให้เกิดริ้วรอยบนหน้าผากเร็วขึ้น
แต่งหน้ายาก
อาการตาปรือทำให้แต่งหน้ายากขึ้น เขียนตาไม่เท่ากัน ติดขนตาปลอมลำบาก อายแชโดว์เลอะง่ายเมื่อหนังตาหย่อน ใช้เวลาแต่งหน้านานขึ้น ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามต้องการ ส่งผลต่อความมั่นใจในการออกงานสังคม
หนังตาตก ตาง่วง แก้ด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยแก้ไขอาการตาปรือและหนังตาตกได้ถาวร แพทย์จะเลือกเทคนิคที่เหมาะสม ทั้งการปรับแต่งกล้ามเนื้อ จัดการไขมัน และสร้างชั้นตาใหม่ ใช้เวลาผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง พักฟื้น 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ดวงตาดูสดใสเป็นธรรมชาติ
สรุปบทความ
อาการตาปรือและหนังตาตกส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันทั้งด้านการมองเห็น ความมั่นใจ และการแต่งหน้า สาเหตุมีทั้งพันธุกรรม อายุ และการผ่าตัดที่ไม่ได้มาตรฐาน การแก้ไขด้วยการผ่าตัดโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้กลับมามีดวงตาที่สดใสอีกครั้ง