Home
|
ไลฟ์สไตล์

ติดจอหนัก พักผ่อนน้อย เสี่ยงกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง! วิธีป้องกันก่อนสายเกินไป

Featured Image

แม้ว่าการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ตเป็นเวลานาน จะถือเป็นกิจกรรรมปกติของคนทำงานออฟฟิศที่ต้องคอยมอนิเตอร์ตลอด แต่ก็ต้องยอมรับว่ากิจกรรมเหล่านี้ มีผลเสียต่อดวงตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นตาแห้ง ตาล้า สายตาปรับโฟกัสไม่ได้ รวมไปถึงอาจเสี่ยงภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วย! ในกรณีที่ไม่ได้มีการดูแลและพักผ่อนอย่างเหมาะสม ซึ่งภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนี้ เป็นภาวะที่เปลือกตาบนหย่อนคล้อยมากกว่าปกติ จนปกปิดดวงตาดำ มองเห็นได้ไม่ชัดเจน และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันนั่นเอง อย่างไรก็ตาม กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง  สามารถป้องกันได้ โดยการปรับพฤติกรรมการใช้สายตาให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงและรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตา จะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย!

1. ใช้กฎ 20-20-20 ให้เป็นนิสัย

หนึ่งในวิธีที่ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน คือกฎ 20-20-20 โดยทุก 20 นาที ควรละสายตาจากหน้าจอไปมองวัตถุที่อยู่ไกลประมาณ 20 ฟุต (6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที วิธีนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อตาผ่อนคลาย ลดอาการตาล้า และลดความเสี่ยงต่อภาวะตาแห้งและกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในอนาคต นอกจากนี้ ควรปรับระยะห่างของหน้าจอให้อยู่ที่ประมาณ 50-70 เซนติเมตร และปรับระดับความสว่างให้เหมาะสม ไม่ให้สว่างมาเกินไป หรือลดปริมาณแสงสีฟ้าให้ลดลงด้วย

2. กะพริบตาบ่อยๆ ลดอาการตาแห้ง

การจ้องหน้าจอเป็นเวลานานอาจทำให้กะพริบตาน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้ดวงตาแห้งและเกิดอาการระคายเคือง จนนำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ ระหว่างพักสายตาแนะนำให้ฝึกกะพริบตาบ่อยขึ้น หรือกะพริบตาต่อเนื่อง 10-15 ครั้ง ทุก 30-60 นาที เพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำตาธรรมชาติ ช่วยให้ดวงตามีความชุ่มชื้นและลดความเสี่ยงของอาการตาแห้ง และถ้าหากรู้สึกว่าดวงตาแห้งมากกว่าปกติ ก็สามารถหยอดน้ำตาเทียมgพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นได้ แต่ควรเลือกแบบไม่มีสารกันเสีย เพื่อป้องกันการระคายเคือง และเพื่อสุขภาพของดวงตาในระยะยาว

3. พักผ่อนให้เพียงพอ ให้ดวงตาได้ฟื้นฟูบ้าง

การนอนหลับที่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อตา เพราะในช่วงที่เราหลับ ร่างกายจะทำการซ่อมแซมและฟื้นฟูระบบต่างๆ รวมถึงกล้ามเนื้อตาด้วย หากพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนล้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ดังนั้น ควรนอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน

4. หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ

การขยี้ตาเป็นพฤติกรรมที่หลายคนทำโดยไม่รู้ตัว ซึ่งการขยี้ตาแรงๆ บ่อยๆ อาจเสี่ยงเกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงและเกิดภาวะเปลือกตาตกเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังอาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบ หรือกระตุ้นให้เกิดปัญหาทางดวงตาอื่นๆ เช่น กระจกตาเป็นรอย หรือภาวะตาแห้งเรื้อรัง ดังนั้นหากรู้สึกระคายเคืองตา แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมหรือผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประคบดวงตา แทนการขยี้ตาโดยตรงนั่นเอง

5. ออกกำลังกายดวงตา เพื่อกล้ามเนื้อตาที่แข็งแรงขึ้น

กล้ามเนื้อตาก็เหมือนกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ที่สามารถบริหารให้แข็งแรงขึ้นได้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เช่น

  • บริหารกล้ามเนื้อตาด้วยการหลับตาให้แน่น ค้างไว้ 5 วินาที แล้วลืมตากว้างๆ ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง
  • การกลอกตาเป็นวงกลม โดยหมุนลูกตาช้า ๆ ตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกาอย่างละ 5 รอบ
  • การบริหารการโฟกัสสายตา โดยยกปลายนิ้วค้างไว้ที่ด้านหน้า แล้วค่อยๆ ขยับเข้าใกล้และออกห่างจากดวงตา เพื่อช่วยฝึกการปรับโฟกัสสายตา
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นปัญหาที่สามารถป้องกันได้ หากเราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพดวงตาอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่การพักสายตาให้เพียงพอ กะพริบตาบ่อยๆ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายดวงตา และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อตาด้วยการบริหารดวงตาเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเปลือกตาตก หนังตาหย่อน จนเริ่มกระทบต่อการมองเห็นหรือความมั่นใจ หรือสงสัยว่าเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่ Dr.Vii Aesthetic Clinic คลินิกศัลยกรรมเสริมความงาม ที่พร้อมให้บริการดูแลและแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ด้วยเทคนิคเฉพาะทางที่ช่วยปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อตาให้กลับมาแข็งแรง พร้อมออกแบบชั้นตาให้ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อให้คุณกลับมามีดวงตาที่สดใสและเปล่งประกายอีกครั้ง
ติดต่อ Dr.Vii Aesthetic Clinic

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube