Home
|
ไลฟ์สไตล์

รู้จักสิวทุกประเภทแบบเจาะลึก! สิวแบบไหนกวนใจที่สุด และจะจัดการยังไงดี

Featured Image

ขึ้นชื่อว่า “สิว” ไม่ว่าจะเป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ หรือสิวอักเสบเม็ดเบ้อเริ่มเทิ่ม ที่แม้ว่ายังไม่ได้จับหรือสัมผัสก็ปวดจี๊ดจนอยากร้องไห้ แน่นอนว่าใคร ๆ ก็ต้องเคยเผชิญกับมันด้วยกันทั้งนั้นแหละ แต่จะมีสักกี่คนที่พยายามทำความเข้าใจว่า สิวแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไง? แล้วทำไมบางคนเป็นสิวอุดตันตลอดเวลา ในขณะที่บางคนสิวเห่อช่วงก่อนมีประจำเดือน? วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก “ประเภทของสิว”เพื่อหาคำตอบและพร้อมรับมือดูแลรักษาสิวแต่ละประเภทอย่างถูกต้อง พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ผิวกลับมาเนียนใสไร้สิวกวนใจได้อีกครั้ง

 

สิวมีกี่ประเภท? มาทำความรู้จักตัวการกวนใจกัน!

จริง ๆ แล้ว สิวมันไม่ได้มีแค่แบบเดียว แต่ละประเภทก็มีลักษณะและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป มาเริ่มรู้จักสิวกันเลยว่ามีประเภทไหนบ้างที่เราควรรู้

สิวไม่อักเสบ (Non-inflammatory acne)

เจ้าตัวการหลักที่ทำให้เกิดสิวอักเสบและทำให้ผิวที่เคยเนียนใสกลายเป็นหมองคล้ำได้ง่าย ๆ แบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ

1.สิวหัวขาว (Whiteheads)

สิวที่อุดตันใต้ผิว ดูเป็นตุ่มขาว ๆ เกิดจากระดับฮอร์โมน การอุดตันของน้ำมัน ท่อรูขุมขนอุดตันจากมลภาวะ เครื่องสำอาง และยาบางชนิด จนเกิดเป็นถุงขาวใต้ผิวหนัง

2.สิวหัวดำ (Blackheads)

สิวที่มีจุดดำ ๆ อยู่ตรงกลาง บางครั้งอาจสังเกตไม่เห็น แต่เกิดจากการรวมตัวของเซลล์ผิวและน้ำมันที่ตายแล้วจนกลายเป็นอุดตันในรูขุมขน และสีดำเกิดจากการออกซิเดชั่น (Oxidation) เมื่อเจออากาศ

3.สิวเสี้ยน (Trichostasis spinulosa)

 มันไม่ใช่สิวจริง ๆ นะ แต่คือ “ขนที่อุดตันในรูขุมขน” จนกลายเป็นเม็ดเล็ก ๆ คล้ายสิวหัวดำ หรืออาจมีสีเหลือง มักจะเห็นที่จมูกหรือคาง

4.สิวผด (Acne Aestivalis หรือ Mallorca acne)

เกิดจากเหงื่อและน้ำมันที่ผิวอุดตันจนเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดงหรือใส ๆ มักเกิดตอนอากาศร้อน ๆ หรือจากเครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน ตัวการหลักคือ “ความร้อน” และ “เหงื่อ” ที่มากเกินไป บางครั้งก็เห็นได้ที่ใบหน้า หลัง หรือคอ

5.สิวหินหรือสิวเม็ดข้าวสาร (Milia)

เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันในรูขุมขน จนกลายเป็นก้อนเล็ก ๆ แข็ง ๆ ขึ้นเป็นจุดเล็ก ๆ สีขาว หรือเหลือง มักพบบริเวณรอบดวงตา หรือจมูก

สิวอักเสบ (Inflammatory Acne)

ถ้าสิวอุดตันไม่ได้รับการดูแล หรือรักษาให้หายสนิท มันจะพัฒนาเป็นสิวอักเสบ ซึ่งมีหลายระดับดังนี้

1.สิวตุ่มแดง (Papules)

สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดง ไม่มีก้อนหนองข้างใน แต่จะบวมและเจ็บเล็กน้อย มักจะพบได้บ่อยในช่วงที่สิวเริ่มอักเสบหรือกำลังพัฒนาไปเป็นสิวที่หนักขึ้น

2.สิวหัวหนอง (Pustules)

สิวตุ่มแดง ๆ บวม ๆ ที่มีหนองอยู่ภายใน เหมือนเป็นหัวขาวหรือเหลืองๆ และหากสิวเริ่มอักเสบหรือมีแบคทีเรียสะสมเยอะขึ้น จะทำให้เกิดหนอง สิวประเภทนี้มักเจ็บและอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นมีรอยแผลได้

3.สิวซีสต์ (Cystic Acne)

คือ สิวที่ลึกและใหญ่ที่สุดในบรรดาทุกประเภท เป็นก้อนหนองใต้ผิวหนัง ลักษณะบวมเจ็บ และมักทิ้งรอยแผลเป็นได้ง่าย ๆ

4.สิวไต (Nodular Acne)

ตุ่มแข็ง ๆ คล้ายซีสต์ แต่จะนูนแข็งและเจ็บ ส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบที่รุนแรง ไม่สามารถหายเองได้ง่าย ๆ และมักจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้เห็นอย่างน่าหงุดหงิด

มีสิวประเภทอื่น อีกไหม?

บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อสิวแบบอื่น นอกเหนือจาก “สิวอุดตัน”และ “สิวอักเสบ” แต่ต้องบอกแบบนี้ว่า ชื่ออื่น ๆ ไม่ใช่ชื่อทางการ แต่มักถูกเรียกจาก “สาเหตุที่ทำให้เกิด”  ยกตัวอย่างเช่น 

  • สิวฮอร์โมน (Hormonal Acne): ทั้งที่มีสิวอุดตันและสิวอักเสบ เป็นถี่เมื่อวัยเปลี่ยน สิวขึ้นทันที โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น
  • สิวแพ้เครื่องสำอาง (Cosmetic Acne): มักเริ่มจากการเป็นสิวอุดตัน และลุกลามเป็นสิวอักเสบได้เช่นกัน เกิดบ่อยในกลุ่มที่ใช้อะไรผิดนิดเดียว หน้าเละทันที

สิว เกิดจากอะไรกันแน่? (รู้ต้นตอ กำจัดให้ถูกจุด!)

ต้นตอของการเกิดสิว เกิดจากปัจจัยหลักรวมกันหลายอย่าง และสามารถลุกลามกลายเป็นสิวชนิดที่เจาะจงไปได้อีก

1. การอุดตันของรูขุมขน

เมื่อเซลล์ผิวหนังตายผสมกับน้ำมัน (ซีบัม) ที่ผลิตจากต่อมไขมันในผิวหนัง จะไปอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิว

2. แบคทีเรีย

เมื่อรูขุมขนอุดตันและมีแบคทีเรียสะสมในนั้น จะทำให้เกิดการอักเสบ จนกลายเป็นสิวอักเสบ (เช่น สิวหัวหนอง)

3. ฮอร์โมน

ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เช่น ในช่วงวัยรุ่น, ประจำเดือน หรือการใช้ยาบางชนิด อาจกระตุ้นการผลิตน้ำมันในผิวมากขึ้น ทำให้เกิดสิวได้ในที่สุด

4. ความเครียด

อารมณ์เครียดอาจเพิ่มการผลิตฮอร์โมนบางชนิด ที่กระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น

5. อาหาร

บางคนอาจพบว่าอาหารบางชนิด เช่น อาหารมันหรือของหวาน อาจทำให้สิวขึ้นมากขึ้น

6. ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม

ฝุ่นละออง, ควัน, มลภาวะ หรือการใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน ก็สามารถเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิวได้

วิธีรักษาสิวเพื่อผิวใสไร้สิว

  • รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดผิวหน้าทุกวันด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อล้างสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินออกจากผิว
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดสิว (Non-comedogenic): ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่ไม่อุดตันรูขุมขน
  • ทาครีมรักษาสิว: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบของสิว
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าบ่อย ๆ: ไม่ควรใช้มือสัมผัสหน้าบ่อย ๆ เพราะจะทำให้สิ่งสกปรกจากมือไปสัมผัสผิวหนัง
  • ไม่บีบหรือแกะสิว: การบีบหรือแกะสิวอาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือทำให้การติดเชื้อแย่ลง

  • รักษาความเครียด: การฝึกการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิหรือการออกกำลังกายสามารถช่วยลดความเครียดที่อาจกระตุ้นให้เกิดสิว
  • พบแพทย์ผิวหนัง: หากสิวไม่หายไปหรือมีการอักเสบที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

สรุป สิวเป็นเรื่องปกติ แต่เราจัดการไม่ให้มากวนใจได้

สิวแต่ละประเภท มาพร้อมความท้าทายที่แตกต่างกันไป และสร้างความกวนใจได้หมดเลยจริง ๆ นะ แต่ถ้าทำความเข้าใจและดูแลให้เหมาะสม ก็สามารถรักษาให้หายได้ ดังนั้นอย่าลืมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว และอย่าบีบสิวสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวจะเป็นรอยไปตลอดชีวิต อีกข้อที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ถ้าพยายามรักษาสิวแล้วไม่หายเสียที คนที่คุณควรคิดถึงเป็นคนแรกคือคุณหมอผิวหนัง หรือผู้ที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะเท่านั้นนะ อย่าได้หาทำไปรักษากับใครก็ไม่รู้ เดี๋ยวจะแย่ลงกว่าเดิม แล้วจะหาว่าไม่เตือนน้า!

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube