หากพูดถึงแบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลกที่ครองใจนักสะสม แถมยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและรสนิยมเหนือกาลเวลา ภาพแรกของใครหลายคนที่นึกถึงจะต้องเป็น Rolex อย่างแน่นอน และล่าสุดในปีนี้ Rolex กลับมาสร้างความน่าตื่นเต้นอีกครั้งด้วยการเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด ที่ผสมผสานความคลาสสิก ดีไซน์สุดล้ำ และนวัตกรรมไว้อย่างลงตัว โดยออก Rolex Watches มาให้เลือกถึง 6 รุ่น สำหรับใครที่อยากอัปเดตเทรนด์นาฬิกาโรเล็กซ์ใหม่ มาเจาะลึกไฮไลท์ของแต่ละรุ่นกันว่ามีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
Rolex GMT-Master II
สำหรับ Rolex Watches ที่เราจะมาแนะนำเรือนแรกคือ Rolex GMT-Master II ตัวเรือนผลิตจากวัสดุ Oystersteel อัลลอยพิเศษเฉพาะของ Rolex มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน และมีความเงางาม หน้าปัดขนาด 40 มม. เคลือบเงาสีดำ ขอบตัวเรือนหมุนได้สองทิศทาง และขอบหน้าปัด Cerachrom เซรามิกสีเทาและสีดำ มาพร้อมคำว่า GMT-Master II และเข็มแสดงเวลา 24 ชม. เป็นสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ กลไกคาลิเบอร์ 3285 ที่แสดงสองเขตเวลาได้อย่างแม่นยำ เสริมให้ Rolex Watch เรือนนี้มีความโดดเด่นและน่าจับตามองอย่างมาก ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น สายนาฬิกายังมีให้เลือกถึง 2 แบบ ทั้ง Jubilee ข้อต่อสามชิ้นสุดทนทาน และสายแบบ Oyster ข้อต่อห้าชิ้นที่สุดของความยืดหยุ่นและสวมใส่สบาย
Rolex Day-Date
Rolex Watch ถัดมาของคอลเลกชัน Day-Date ล่าสุดปี 2024 เราได้นำมาฝากถึง 4 รุ่น
- เรือนแรก Rolex Day-Date Everose gold ขนาดตัวเรือน 40 มม. ผลิตจากวัสดุ Everose gold 18 กะรัต หน้าปัดสีเทาอมน้ำตาลออมเบร ที่ได้รับการดีไซน์ไล่ระดับสี จากสีโทนสว่างตรงกลางหน้าปัดไปสู่สีโทนมืดตรงขอบ มาพร้อมกับตัวเลขโรมันทรงเหลี่ยม และสาย President ข้อต่อสามชิ้นทรงครึ่งวงกลม
- เรือนถัดมา Rolex Day-Date ขนาดตัวเรือน 40 มม. ผลิตจากวัสดุทองคำขาว 18 กะรัต มาพร้อมหน้าปัดเหลือกหอยมุกสีขาว เสริมความโดดเด่นด้วยเพชร 10 เม็ด ณ ตำแหน่งตัวเลขบอกชั่วโมง ส่วนสายนาฬิกาเป็น President ข้อต่อสามชิ้นทรงครึ่งวงกลมวงกลมสุดทนทาน นับเป็นความแปลกใหม่สำหรับ Rolex Watches ในคอลลาเลกชันนี้เลยก็ว่าได้
- เรือนที่สาม Rolex Day-Date ขนาดตัวเรือน 36 มม. ผลิตจากทองคำ 18 กะรัต หน้าปัดสีขาว ตัดกับอักษรโรมันสีทอง มาพร้อมสายนาฬิกา President โลหะข้อต่อสามชิ้นทรงครึ่งวงกลม ใครที่ชื่นชอบนาฬิกาทอง ต้องห้ามพลาดรุ่นนี้เด็ดขาด
- สำหรับเรือนสุดท้ายของ Rolex Day-Date ขนาดตัวเรือน 36 มม. ผลิตจากวัสดุ Everose gold 18 กะรัต หน้าปัดสีเขียว-ฟ้าผิวซันเรย์ ประดับเพชรเจียระไนสี่เหลี่ยมยาว 10 เม็ด แทนตำแหน่งตัวเลขบอกชั่วโมง เสริมความหรูหราด้วยเพชรที่รายล้อมขอบหน้าปัด และสายนาฬิกาแบบ President ถือเป็นอีกเรือนที่น่าจับตามองอย่างมาก
Rolex 1908
Rolex Perpetual 1908 ตัวเรือนผลิตจากวัสดุแพลทินัม 950 ขนาดหน้าปัด 39 มม. ลายเม็ดข้าว ที่ตกแต่งด้วยกระบวนการกิโยเช่ (Guillochage) หรือการกลึงแบบดั้งเดิม สีไอซ์บลูที่ตกแต่งนับเป็นเฉดสีพิเศษที่พบได้ในโลหะชนิดนี้เท่านั้น ด้านหลังตัวเรือนดีไซน์แบบโปร่งใส เผยให้เห็นกลไกคาลิเบอร์ 7140 แกนจักร และลูกเหวี่ยง มาพร้อมกับสายหนังสีน้ำตาลสุดคลาสสิก ใครที่ชื่นชอบนาฬิกาดีไซน์คลาสสิกมีลูกเล่นน่าจับตามอง ต้อง Rolex Watch เรือนนี้เลย
Rolex Deepsea
Rolex Deepsea นาฬิกาสำหรับนักดำน้ำระดับมืออาชีพเรือนนี้ ตัวเรือนใช้วัสดุทองคำ 18 กะรัต หน้าปัดโครมาไลท์ ขนาด 44 มม. หน้าปัดและแหวนเซรามิกสีน้ำเงิน ตัดกับเครื่องหมายบอกชั่วโมงและเข็มนาฬิกาสีขาวตัดขอบทอง และตัวเรือนสีทอง ขอบตัวเรือน Cerachrom หมุนได้ทิศทางเดียว กลไกคาลิเบอร์ 3235 เสริมความแข็งแรงและสมรรถนะขณะดำน้ำใต้ทะเลลึก ด้วยวาล์วคายฮีเลียมจากไทเทเนียม ที่พร้อมจัดการกับแรงดันได้อย่างดีเยี่ยม สายนาฬิกา Oyster ข้อต่อสามชิ้นทำจากทองคำ 18 กะรัต มาพร้อมกับชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock แบบพับได้ สำหรับใครที่กำลังมองหา Rolex Watches ดีไซน์หรูหรา โทนสีที่ตัดกันอย่างลงตัวสุดโดดเด่น ต้องเรือนนี้เลย
Rolex Cosmograph Daytona
สำหรับ Rolex Cosmograph Daytona ต้องยกให้เป็น Rolex Watch ที่สุดของความสวยหรูในปี 2024 เลยก็ว่าได้ ซึ่งออกมาทั้งหมด 2 รุ่น คือ หน้าปัดเปลือกหอยมุกธรรมชาติสีดำและสีขาวตัดสลับกัน โดยหน้าปัดขาวจะตัดสีดำบริเวณส่วนแสดงเวลา หน้าปัดดำจะตัดสีขาวบริเวณส่วนแสดงเวลา ขอบตัวเรือนและตำแหน่งบอกชั่วโมง ประดับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสร 36 เม็ด ตัวเรือนผลิตจากวัสดุทองคำขาว 18 กะรัต มาพร้อมกลไกคาลิเบอร์ 4131 และสายนาฬิกา Oysterflex หล่อด้วยอีลาสโตเมอร์สมรรถนะสูง เห็นได้ชัดว่าคอลเลกชัน Rolex Cosmograph Daytona ที่ออกใหม่นี้เป็นการปรับโฉมดีไซน์โดยเน้นความหรูหรา เปรียบเสมือนเครื่องประดับบนข้อมือที่คู่ควรกับการได้มาครอบครองอย่างแน่นอน
Rolex Sky-Dweller
Rolex Sky-Dweller นาฬิกาสำหรับนักเดินทางมืออาชีพเรือนนี้ ตัวเรือนผลิตจากวัสดุ Everose gold และทองคำ 18 กะรัต หน้าปัดขนาด 42 มม. สีเทาอมน้ำเงิน แสดงสองเขตเวลาที่แตกต่างกัน มาพร้อมฟังก์ชันปฏิทิน Saros ขอบหน้าปัดแบบเซาะร่อง และระบบ Ring Command หมุนได้สองทิศทาง กลไกคาลิเบอร์ 9002 ไขลานอัตโนมัติสองทิศทางด้วยโรเตอร์ Perpetual และเป็นครั้งแรกที่ให้เลือกสายนาฬิกาแบบ Jubilee ข้อต่อห้าชิ้น นับเป็น Rolex Watch ของปี 2024 ที่น่าจับจองมาไว้บนข้อมืออีกเรือนเลย
และนี่คือ Rolex Watches 6 รุ่นใหม่ของปี 2024 ที่เรานำมาฝาก แต่ละเรือนยังคงคอนเซปต์ความเที่ยงตรง ทนทาน และสวยงามตามแบบฉบับของ Rolex ใครที่สนใจต้องการจับจองเป็นเจ้าของ หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Nam Sawang – นำสว่าง เราคือตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา Rolex อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โทร. 02-433-7842 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.namsawang.com