จับคนไทยลอบขนต่างด้าวได้ค่าจ้างหัวละ1,500บ.
จับคนไทยรับจ้างขนต่างด้าวได้ค่าจ้างหัวละ 1,500 บาท – ผบช.สตม.สั่งเข้มชายแดนสกัดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เข้าไทย
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุม นายเกรียงไกร อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาชาวไทยและต่างด้าวสัญชาติเมียนมา อีก 6 ราย ตรวจยึดรถตู้จำนวน 1 คัน หลังเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนพบกลุ่มขบวนการลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและทราบว่าครั้งนี้มีการใช้ยานพาหนะเป็นรถตู้และใช้เส้นทางถนนเกษม ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงทำการวางแผนเข้าจับกุม จนพบรถตู้คันดังกล่าวตรวจสอบทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางไม่มีวีซ่าในการทำงานในประเทศไทยแต่อย่างใดจึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการซักถามนายเกรียงไกร ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ขับรถนำคนต่างด้าวเข้ามาจากช่องทางธรรมชาติที่จังหวัดระนอง นำส่งปลายทาง จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับค้าจ้างในการขน หัวละ 1,500 บาท ส่วนคนชาวเมียนมาที่ หลบหนีเข้ามานั้น รับสารภาพว่าเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติที่จังหวัดระนองมีนายหน้ารับดำเนินการ เสียค่าใช้จ่ายคนละ 3,000 บาท ทาง ตม.ประจวบคีรีขันธ์ จะรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลติดตามขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ ตม.นครพนม ยังได้ตรึงกำลังเข้มตลอดแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยตลอดเดือนที่ผ่านมาจับกุมต่างด้าวชาวลาวและกัมพูชา จำนวน 52 ราย โดยเจ้าหน้าที่จับกุม นายวิรัตน์ ขณะใช้รถยนต์บรรทุกรับคนต่างด้าวสัญชาติลาวมาจากจุดต่างๆในพื้นที่นครพนมและขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก1ราย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองย้ำว่า สตม.ได้ดำเนินการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำผิดในด้านต่างๆ รวมถึงเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและต่างชาติที่หมายมีหมายจับเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผย กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความกังวลและเป็นห่วงชาวต่างด้าวที่การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของต่างชาติตามแนวชายแดนและเกรงว่าจะนำเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ทั้งอินเดียและแอฟริกาซึ่งมีความรุนแรงเข้าในประเทศว่า ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจัดแผนในการป้องกันและซีลตามแนวชายแดนทั้งหมด โดยการประสานร่วมกับกองกำลังในพื้นที่ทั้งทหาร ตชด. และฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำจังหวัดได้ร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพราะเป็นเรื่องที่น่ากังวลเพราะเล็ดลอดมาได้ก็จะแพร่ระบาดได้เร็ว ซึ่งตนได้สั่งการให้ ตม.ทุกจังหวัดตามแนวชายแดนเพิ่มความเข้มและประสานการปฎิบัติพร้อมสนับสนุนกำลังตำรวจจากสนามบินที่ปริมาณงานลดน้อยลงเนื่องจากนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติเข้ามาน้อยจึงได้ปรับแผนและนำกำลังเข้าไปเสริมและนำรถตรวจอัจฉริยะตรวจตามด่านสำคัญต่างๆ โดยทาง ผบ.ตร. เตรียมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและดูการปฎิบัติเร็วๆนี้จากการมาตรการต่างๆ ทำให้เชื่อว่าจะควบคุมสถานการณ์การลักลอบหนีเข้าเมืองได้
ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่าในส่วนของกำลังสังกัด สตม. ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกไปแล้ว 51% และฉีดเข็มที่ 2ไปแล้ว 38% ยอมรับว่ามีตำรวจบางนายที่ไม่กล้ารับการฉีดเพราะมีปัญหาเรื่องโรคประจำตัว แต่ขณะนี้ส่วนใหญ่มีความเข้าใจและรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนที่ถูกต้องมากขึ้นต่างประสงค์จะรับการฉีดเช่นเดียวกับประชาชน สำหรับ รพ.สนามของ ตม.ที่ได้จัดตั้งขึ้นขณะนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงทั้งห้องน้ำและติดตั้งพัดลมระบายอากาศ พร้อมรองรับประชาชนที่ติดเชื้อและอาการไม่หนักเข้ามารับการรักษาแล้ว ส่วนผู้ต้องกักที่รักษาหายดีเริ่มทยอยผลักดันออกนอกประเทศแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news