ราชทัณฑ์จับตาโควิดคุกคาดพุ่งอีกห่วงนักโทษล้น
กรมราชทัณฑ์ จับตา โควิด19 คุกคาดหลังตรวจเชิงรุก 100% จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอีก – ห่วงปัญหานักโทษล้น พร้อมลุยตรวจ ยันไม่ได้ปกปิดตัวเลข
นายอายุตม์ สินธพพันธ์, นายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้เกี่ยวข้อง แถลงข่าว ผ่านระบบออนไลน์ไลฟ์สดเพจกรมราชทัณฑ์ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด -19 ภายในเรือนจำ ระบุว่า ปัจจุบัน ในเรือนจำมีนักโทษ ประมาณ 311,540 คน โดยจำนวนนี้ถือเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง แต่มีเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานทั่วประเทศประมาณ 13,000 คน
ซึ่งหลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เรือนจำก็ได้มีการเข้มมาตรการป้องกันโรค โดยเฉพาะการกำหนดนโยบาย คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าแต่ก็ยอมรับว่า แม้เรือนจำจะเป็นสถานที่ปิด แต่ในข้อเท็จจริง แต่ละวันเรือนจำก็ยังคงมีนักโทษใหม่, มีนักโทษที่เข้าออก เดินทางไปรักษาตัวที่ รพ. เนื่องจากมีอาการเจ็บป่วย รวมถึงนักโทษที่ไปศาลกลับมา ซึ่งส่วนนี้ก็ได้มีการกักตัวก่อนให้กลับเข้าแดนตามปกติ โดยห้องควบคุมในเรือนจำมีสภาพเก่า และคับแคบ เพราะมีปริมาณนักโทษจำนวนมาก ดังนั้นในเรื่องของสุขอนามัย หรือ การป้องกันควบคุมโรค จึงทำได้อย่างมีข้อจำกัด
ซึ่งขณะนี้พบการติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ 15 แห่ง ทั่วประเทศ ส่วนอีกกว่า 100 แห่งที่เหลือ กำลังเร่งดำเนินการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ จากการปูพรมตรวจแบบ 100% ในจุดที่พบผู้ป่วยติดเชื้อตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตัวเลขนี้อาจจะมีตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นอีก แต่ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าจะมีการรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดี โดยล่าสุดตนเองได้สั่งให้ตั้งศูนย์เพื่อติตดามตัวเลขผู้ป่วย ควบคู่กับการเติมคลอรีนในอ่างน้ำสำหรับผู้ต้องขัง และเพิ่มการใช้สบู่เหลว รวมถึงเจลล้างมือแอลกอฮอล์ สำหรับเรือนจำที่เฝ้าระวังในเขต กทม. ขณะนี้มีทั้งหมด 8 เรือนจำ เบื้องต้น ยืนยันว่าไม่ได้ปกปิดตัวเลขผู้ป่วย เพราะการตรวจค้นผู้ป่วยต้องเข้าห้องแล็บ เมื่อพบผู้ติดเชื้อเจ้าหน้าที่จะต้องคีย์ข้อมูลไปยังระบบของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ซึ่งตัวเลขก็จะปรากฎตามนั้น แต่อาจจะมีความคลาดเคลื่อนในเรื่องของเวลาที่อาจจะได้ไม่พร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่า ตัวเลขสถานการณ์การแพร่ระบาดของกรมราชทัณฑ์มียอดสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเกิดจากการที่กรมราชทัณฑ์มีการตรวจเชิงลึกในเวลาอันสั้น ประกอบกับการตรวจหาเชื้อโควิด ค่อนข้างมีความแปรปรวน เนื่องจากพบมีระยะฟักตัวที่นานขึ้น ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า มีเรือนจำอยู่เพียง 2 แห่งที่พบผู้ป่วยในอัตราสูง ซึ่งเรือนจำดังกล่าวมีลักษณะพิเศษคือ เป็นเรือนจำพิเศษและเป็นเรือนจำที่รับผู้ต้องขังรับใหม่
โดยที่ผ่านมา เรือนจำได้มีความพยายามหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพราะกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานสุดท้ายที่ต้องรับสภาพในการคุมขังโดยข้อกฎหมายที่สั่งการมา โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเรือนจำที่ตรวจโควิด-19 ไปแล้ว 100% ซึ่งตัวเลขก็ออกมาสูง และยังมีบางส่วนที่รอยืนยันอีกหลัง 7 วัน ว่าจะไม่มีผู้ที่แฝง หรือยังไม่แสดงผลบวก ข้อสังเกตคือเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเรือนจำที่รับผู้ต้องขังใหม่ เพราะฉะนั้น จึงเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงที่จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เข้ามาในเรือนจำ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news