เรือนจำติดโควิดเพิ่มอีก523ราย-เริ่มฉีดวัคซีนวันแรก
ราชทัณฑ์ รายงาน ยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 523 ราย พร้อมเผย เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ผู้ต้องขังเป็นวันแรก
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย ความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00 น มี ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 523 ราย รักษาหาย 218 ราย รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,348 ราย มีเรือนจำและทัณฑสถานที่พบผู้ติดเชื้อ 12 แห่ง ดยเรือนจำที่พบผู้ติดมากที่สุดคือ เรือนจำกลางบางขวาง 299ราย,เรือนจำกลางคลองเปรม 158ราย,ทัณสถานหญิงกลาง 29ราย,ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 26 ราย,ทัณฑสถานหญิงธนบุรี 8ราย และเรือนจำกลางเชียงใหม่ 2ราย ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ได้รับการตรวจเชื้อแล้ว จำนวน 37,288 ราย มีเรือนจำที่ตรวจครบ 100% เพิ่มอีก 1 แห่ง คือ เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ส่วนเรือนจำอื่นๆ ที่ตรวจครบแล้วยังมีการ SWAB หาเชื้อซ้ำทุกๆ 7 วันในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อรวมถึงการตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังเรือนจำอื่นๆ และผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในผู้ต้องขัง ในวันนี้ (22 พฤษภาคม 2564) กรมราชทัณฑ์จะเริ่มฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีเป็นแห่งแรก จำนวน 1,500 ราย และตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็มแรกจนครบ 3,831 ราย ภายใน 1 สัปดาห์ โดยการสนับสนุนวัคซีนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นวัคซีน 2 ชนิด คือ ซิโนแวค เพื่อฉีดแก่ผู้ต้องขังกลุ่มอายุต่ำกว่า 60 ปี และแอสตราเซนเนกา เพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังกลุ่มสูงอายุ และกลุ่มป่วย 7 โรคเรื้อรัง ด้วยความร่วมมือในการให้บริการฉีดโดยโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้มอบหมายให้ศูนย์ CARE ประจำเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง รับผิดชอบในการประสานงานรวบรวมข้อมูลของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อและแจ้งให้ญาติผู้ต้องขังทราบเป็นการเฉพาะราย พร้อมทั้งแจ้งความคืบหน้าการรักษา และอาการป่วยของผู้ต้องขังให้ญาติทราบผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นใดที่ได้แจ้งไว้ เพื่อบรรเทาความห่วงใยของญาติผู้ต้องขัง ทั้งนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องขังก่อนเสมอ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news