รอง โฆษก ตร.เตือนอย่าหลงเชื่อหลอกลงทุนประมูลขายของออนไลน์ หลังสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าวกรณีจับหนุ่มแสบ หลอกลงทุนประมูลขายของออนไลน์
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. และ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการนำเสนอข่าวกรณี “จับหนุ่มแสบ หลอกลงทุนประมูลขายของออนไลน์ ทำสูญกว่า 5 แสน พบหมายจับเพียบ” ว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2564 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายไทย อายุ 31 ปี ซึ่งได้ร่วมกระทำความผิดในลักษณะของการหลอกลวงให้ผู้อื่นมาลงทุน โดยการประกาศขายสินค้าผ่านเฟซบุ๊กในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาดถึง 30% มีผู้เสียหายหลายรายสนใจสินค้าดังกล่าวและได้มีการนัดกันไปดูสินค้าที่โกดังแห่งหนึ่งซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าตนเป็นหุ้นส่วน และได้มีการชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน ด้วยการนำเงินมาประมูลสินค้าจากเว็ปช็อปปิ้งออนไลน์ที่ผู้ต้องหาเป็นตัวแทนจำหน่าย แล้วนำมาขายต่อ โดยอ้างว่าสินค้าสามารถทำกำไรได้ และเมื่อครบกำหนดส่งสินค้าปรากฎว่าสินค้าที่ได้มานั้นไม่ครบตามที่สั่ง บางชิ้นก็ชำรุด รวมถึงโกดังที่มีการนัดไปดูสินค้าก่อนนี้ผู้ต้องหาก็ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการขอหมายจับ ก่อนจะมีการจับกุมนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
พร้อมฝากเตือนภัยและประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันหลักเลี่ยงการฉ้อโกงในลักษณะหลอกลวงให้ร่วมลงทุนไปยังประชาชน ดังนี้
1)ควรตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนว่า ธุรกิจดังกล่าวมีจริงหรือไม่ ,ผู้ที่ชวนไปร่วมลงทุนมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวหรือเปล่า เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีในลักษณะของการฉ้อโกงหรือไม่
2)ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีข้อเสนอดีเกินไป มีการการันตีผลกำไร มีขั้นตอนที่ง่ายไม่ซับซ้อน ไร้ความเสี่ยงในการลงทุน
3)การจะตัดสินใจลงทุนในเรื่องใด ควรจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ อย่าลงทุนในสิ่งที่ไม่เข้าใจ
4)พึงระลึกไว้เสมอว่า “เงินทองนั้นหามายาก อย่าให้ใครมาเอาไปโดยง่าย” มีสติทุกครั้งก่อนจะตัดสินใจโอนเงิน ในบางครั้งต้องใจแข็งและกล้าที่จะปฏิเสธแม้ว่าข้อเสนอนั้นจะดูดีมากก็ตาม
5)ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อจะได้รู้ทันกลโกงหรือรูปแบบของเหล่ามิจฉาชีพ และขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ให้แก่พี่น้องประชาชนในเรื่องของการลงทุน
นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news