Home
|
อาชญากรรม

ดีเดย์3มิ.ย.ราชทัณฑ์ฉีดวัคซีนผู้ต้องขัง

Featured Image
นักโทษติดโควิด-19 เพิ่ม 1,087 ราย ราชทัณฑ์ เตรียมฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขัง ดีเดย์ 3 มิ.ย.นี้

วันพุธที่ 2 มิถุนายน 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลา 18.00 นาฬิกา) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,087 ราย รักษาหาย 1,086 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 14,588 รายโดยภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและ ทัณฑสถาน มีเรือนจำและทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 122 แห่ง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นจากวันก่อนค่อนข้างมาก ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนการ SWAB เพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำในกลุ่มผู้ต้องขังที่ไม่พบเชื้อ ในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาด ที่จะดำเนินการตรวจตามรอบในทุกๆ 7 วัน จึงส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นและลดลงตามรอบการตรวจดังกล่าว ทั้งนี้ ก็เป็นไปเพื่อให้การค้นหาผู้ติดเชื้อเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว อันจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง และผู้ป่วยหนักให้น้อยลง

สำหรับความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีน กรมราชทัณฑ์ ได้รับการแจ้งจากกรมควบคุมโรค ว่าจะสามารถส่งมอบวัคซีนในลอตแรกประมาณ 100,000 โดส โดยจะใช้ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานหลักในการเก็บรักษาวัคซีน ซึ่งขณะนี้ทุกเรือนจำ/ทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีขาว คือปลอดการติดเชื้อทั้งในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง จำนวน 122 แห่ง ได้เตรียมแผนเพื่อฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนได้ทันทีเมื่อวัคซีนถูกจัดสรรมา โดยในระยะแรก จะกระจายการฉีดวัคซีนในกลุ่มเรือนจำสีขาว ที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดสูง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการฉีดได้ในวันที่ 3 มิถุนายน 2564 ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ และคาดว่าจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังตามแนวทางดังกล่าวได้ครบถ้วนภายในเดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งกรมราชทัณฑ์ จะรายงานความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าวให้ทราบเป็นระยะต่อไป

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube