ลุงพลนอนคุกคืนแรกสบายไร้กังวลมีFCส่งข้าวผัด
ลุงพล นอนคุกคืนแรก สบายไร้กังวล ไม่มีอาการเครียด มี FC ส่งข้าวผัดไข่ดาว ให้กินมื้อแรก ฝากบอก “ทำใจอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” ขณะ”ป้าแต๋น” หอบข้าวกระเพราทะเล-ของใช้ เยี่ยม
บรรยากาศ ที่บริเวณ สถานีตำรวจภูธรกกตูม หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล มาฝากขังในคดีการเสียชีวิต ของน้องชมพู่ ซึ่งคืนแรก ของการนอนในห้องคุมขังของลุงพล
จากการสอบถาม พ.ต.ท.สุริยา นภกรีกำแหง สารวัตรใหญ่ สภ.กกตูม เปิดเผยว่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ลุงพลอยู่ในห้องขัง โดยอาการปกติ ไม่มีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด ยังคงนอนหลับเหมือนผู้ต้องขังปกติทั่วไป
ขณะที่ นางลัดดาวัลย์ ทับเจริญ หรือป้าจิ๋ง เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมลุงพล เพื่อนำข้าวผัดไข่ดาวไปมอบให้ ว่า ลุงพลตื่นแล้ว และนั่งในท่าขัดสมาธิ ซึ่งลุงพลไม่ได้มีอาการเครียด และบอกว่า “เมื่อคืนที่ผ่านมานอนสบายอยู่กับสารวัตร โอเคดี ทำใจอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”
ป้าแต๋น หอบข้าวกระเพราทะเล พร้อมของใช้เยี่ยมลุงพล เผย นอนหลับสบายดี ลุงพลบอกว่าไม่ต้องห่วง ยืนยันในความบริสุทธิ์เตรียมหลักฐานพร้อมสู้
นางสถาพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น เดินทางเข้าเยี่ยมนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ที่สภ.กกตูม หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ และต้องนอนในห้องคุมขังคืนแรก
โดยป้าแต๋น เปิดเผยสั้นๆ ว่า เมื่อคืนนี้ตนเองนอนหลับสบายดี และลุงพลก็หลับสบายดี ไม่ได้มีความกังวลใจหรือเครียดอะไร ซึ่งหลังจากนี้ ก็ปล่อยให้ทนายดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และยืนยันว่าเราบริสุทธิ์ มีหลักฐานเตรียมต่อสู้ทุกอย่าง ตามข้อหาที่ตำรวจแจ้งมา ส่วนเรื่องยื่นประกันตัวลุงพล ได้ให้ทนายความดำเนินการ ทั้งเตรียมหลักฐานต่างๆรวมทั้งเงินสดไว้เรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีที่แม่น้องชมพู่ ยื่นคัดค้านการประกันตัวนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราพร้อมสู้เต็มที่ นอกจากนี้ ป้าแต๋น กล่าวถึงกรณีโทรศัพท์มือถือ 2 ซิม ว่า ไม่ได้มีการโทรศัพท์ไปบอกลุงพล ว่าน้องชมพู่หายตัวไป เพราะที่บ้านมีโทรศัพท์เพียงแค่เครื่องเดียวเท่านั้น และ ลุงพลทราบว่าน้องชมพู่หายตัวไป จากตอนที่เจอกับป้าแต๋น ที่หน้าบ้านป้าถอน
ส่วนหลักฐานที่พบเส้นผม หรือเส้นขนของน้องชมพู่ ตกอยู่ในรถลุงพลนั้น ก็เป็นไปตามปกติ ที่น้องชมพู่ เคยขึ้นรถลุงพลกับป้าแต๋นบ่อยครั้ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าขนและเส้นผมต่างๆของน้องชมพู่ ตกอยู่ในรถเมื่อเวลาใด แต่ในวันที่เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นหาหลักฐานในรถช่วงนั้น พวกตนเองไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นทันที และนำเอกสารมาให้เซ็น ซึ่งไม่ได้เป็นหมายค้น หรือแจ้งมาก่อนล่วงหน้า ซึ่งตรงจุดนี้ไม่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ โดยทุกอย่างมอบหมายให้ทนายความดำเนินการตามกฏหมาย และเชื่อมั่นในตัวทนายตั้ม
@inn_news #ป้าแต๋น หอบข้าวกระเพราทะเล-ของใช้ เยี่ยม#ลุงพล นอนคุกคืนแรก เผยหลับสบายดีทั้งคู่ ยันพร้อมสู้คดี #บ้านกกกอก#กกตูม #น้องชมพู่#INNNews #ข่าวtiktok
ส่วนบรรยากาศ รอบ สภ.กกตูม ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ามียูทูปเบอร์ มาปักหลักเฝ้าสังเกตการณ์ ซึ่งรอบพื้นที่โรงพัก ตำรวจได้นำโปลิศไลน์ มากันพื้นที่ไว้ เพื่อกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน
ทนายตั้ม ตอกกลับ ผบ.ตร. เหตุไม่รับมอบตัว ลุงพล เข้าข่ายผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มั่นใจในหลักฐานสู้คดี สงสัย3ข้อหา จี้แจงปมDNAหวังได้ประกัน
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของลุงพล เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายใน สภ.กกตูม ว่า ตนเองต้องการให้ตำรวจออกมาชี้แจง ในประเด็นผลการตรวจดีเอ็นเอ ให้ชัดเจนว่าเป็นของบุคคลใด
ส่วนเมื่อวานนี้ ที่ตนเองพาลุงพล เข้ามอบตัว กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากตอนแรกไม่ทราบว่ามีหมายจับ จนลุงพลเดินทางมาหาตนที่ กทม. จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว กับ ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และมองว่าหมายจับสามารถใช้ได้ทั่วราชอาณาจักร แต่จากที่มีกระแสข่าวว่า ผบ.ตร. ปฏิเสธรับมอบตัว นั้น ตนเองมองว่าหากเป็นความจริงอาจเข้าข่ายความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
ส่วนกรณีที่ถูกมองว่า การเข้ามอบตัวเพื่อใช้เป็นเหตุผลเสนอต่อศาล ในการพิจารณายื่นคำร้องขอประตัวนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าศาลพิจารณาจากเจตนา และการที่เข้าไปมอบตัวเป็นความสมัครใจ
นอกจากนี้ สำหรับเส้นทางต่อสู้ทางคดี ตนเองมองว่า การออกหมายจับของตำรวจ ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของคดี แต่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งการแจ้งความดำเนินคดี 3 ข้อหา มองว่า พยานหลักฐานที่ตำรวจออกหมายจับ เป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้น ซึ่งตนเองมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่สามารถต่อสู้และโต้แย้ง ในทุกประเด็นได้อย่างแน่นอน
ทนายตั้ม เผย ตำรวจคัดค้านประกันตัวลุงพลในชั้นสอบสวน เตรียมยื่นชั้นศาลพรุ่งนี้ – จ่อเชิญ ผบ.ตร. ชี้แจงคดีน้องชมพู่ กับ “สิระ” อังคารหน้า
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมลุงพล ว่าลุงพล ยังโอเค ไม่เครียด มีกำลังใจดี เพราะมีแฟนคลับเอาของมาเยี่ยมเยอะ และเข้าใจในเรื่องกระบวนการต่อสู้ทางคดีแล้ว
เบื้องต้นตนเองได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นสอบสวน เป็นหลักทรัพย์โฉนดที่ดิน 2 แปลง แต่ในชั้นสอบสวนตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ ตนจะไปยื่นขอประกันตัวลุงพล อีกครั้งในชั้นศาล เวลา 10.00 น. ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร
ขณะเดียวกันนายษิทรา ได้กล่าวถึงการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มองว่าขั้นตอนการออกหมายจับ 3ข้อหาไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ว่า ในวันอังคาร ที่ 8 มิ.ย. 64 ตนเองเตรียมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการ ที่มี นายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน โดยการเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เข้ามาชี้แจงใน 4-5 ประเด็นที่เกี่ยวกับคดี เช่น การจับกุม การมอบตัว และการแจ้งข้อหา ซึ่งการเข้ายื่นเรื่องในครั้งนี้ นายสิระ เป็นผู้ประสานติดต่อเข้ามาเอง
นอกจากนี้ นายษิทรา ได้ยกตัวอย่างคดีที่ศาลชั้นต้นอนุมัติหมายจับ และมีการอุทธรณ์ ว่า ศาลชั้นต้นมีอำนาจการออกหมายจับ และมีการอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัย และเพิกถอนหมายจับ แต่เมื่อไปถึงชั้นศาลฎีกาปรากฏว่าโดนตีตกกลับมา ว่าการออกหมายจับเป็นอำนาจของศาลชั้นต้น
ดังนั้น ตนเองต้องการให้คดีนี้เป็นคดีแรก ในเมืองไทย และเป็นคดีตัวอย่าง ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ในทางที่ดีขึ้นเพื่อสังคม ส่วนประเด็นที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จะเดินทางมาที่บ้านกกกอก เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัวลุงพล ตนขอไม่พูดถึงบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี
โฆษกตร.ปัดใช้ ฮ.VIP พา”ลุงพล” กลับมุกดาหาร ชี้ เป็นไปตามระเบียบ ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษผู้ต้องหา
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้ แจงกรณีปรากฏเป็นข่าวผ่านทางโซเชียลมีเดีย ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควบคุมตัวนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหา ในคดีการตาย ของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ นั่งเฮลิคอปเตอร์วีไอพี กลับไปดำเนินคดี ที่ สภ.กกตูม จังหวัดมุกดาหาร โดยมี นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ร่วมโดยสารมากับเฮลิคอปเตอร์ ลำดังกล่าวด้วย
พร้อมกับมีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า เหตุใดผู้ต้องหาในคดีร้ายแรง เกี่ยวกับการเสียชีวิต ของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ จึงได้รับเกียรติให้นั่งเฮลิคอปเตอร์ ที่หรูหรา ทันสมัยที่สุดลำหนึ่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบ การใช้อากาศยานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การเลือกใช้เฮลิคอปเตอร์ ลำใด จะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร และระยะทางมาประกอบกัน
ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ ที่ปรากฏในข่าว เป็นเครื่องประจำการที่ใช้ในกิจการหลัก ของ ตร. อยู่แล้ว ไม่ใช่ ฮ. พิเศษวีไอพี ขอยืนยัน ว่า ตำรวจไม่ได้ให้สิทธิพิเศษกับผู้ต้องหาคนใดคนหนึ่ง อย่างที่ปรากฏในสื่อแต่อย่างใด
โฆษก ตร.ชี้ ลุงพล มีหมายจับ ไม่จับถือว่าเข้าข่ายผิด 157
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ได้เข้าแสดงหมายจับ และจับกุมตัวนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ได้บริเวณโถงชั้นล่าง อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)
จากนั้น ได้ควบคุมตัวนายไชย์พล ส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และลงบันทึกประจำวัน ก่อนส่งตัวกลับไปดำเนินคดี ที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร และยืนยัน ว่า กรณีนายไชย์พล เป็นการจับกุมตัวตามหมาย ไม่ใช่การรับมอบตัวแต่อย่างใด
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว หรือการจับกุมตัว ไม่ได้มีผลในทางกฎหมาย เนื่องจากผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ จะมอบตัว หรือจับกุมตัว ก็ต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา และมีสภาพเป็นผู้ต้องหาอยู่แล้ว แต่การมอบตัว ฝ่ายผู้ต้องหาหรือผู้เกี่ยวข้อง อาจยกขึ้นเป็นเหตุผลในการขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเหตุผลในเรื่องการไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ของพนักงานสอบสวน หรือของศาล แล้วแต่กรณี อย่างไรก็ตาม ตำรวจที่จับกุมนายไชย์พล มีอำนาจและหน้าที่ในการจับกุม ตามหมายอยู่แล้ว หากพบเห็นนายไชย์พล ปรากฎตัวต่อหน้า แล้วไม่ดำเนินการจับกุม อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ด่วน! ศาลจังหวัดมุกดาหาร ออกหมายจับ “ลุงพล“ 3 ข้อหา
- ตร.บุกบ้านลุงพลไม่พบตัวรวบยูทูปเบอร์อ๋อ-แม่น้องชมพู่ร่ำไห้
- ด่วน!ลุงพลมอบตัวแล้วคดีน้องชมพู่-ตร.นำสอบ
- ผบ.ตร.มั่นใจหลักฐานฟันลุงพลยังไม่พบโยงใครเพิ่ม
- ลุงพลหน้าเครียดถูกคุมจากตร.ไปขึ้นฮ.กลับสภ.กกตูม
- ลุงพลนอนคุกคืนแรกสบายไร้กังวลมีFCส่งข้าวผัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news