สาววัย 27 ปี ชาวสุพรรณบุรี ร้อง ปคบ. เอาผิดคลินิกเสริมความงามหลังทำศัลยกรรมหน้าอกผิดรูป
สาวอายุ 27 ปี ชาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี อาชีพแม่ค้าขายของออนไลน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 64 ตนเองได้เดินทางไปทำศัลยกรรมหน้าอก ที่คลินิกแห่งหนึ่งย่าน ปากเกร็ด จ.นนทบรี เพื่อแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยจากการมีบุตร ซึ่งเดิมทีตนเองเป็นคนมีหน้าอกอยู่แล้ว โดยมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดประมาณ 75,000 บาท ซึ่งในวันที่ได้เดินทางไปผ่าตัด อยู่ในช่วงการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ที่ให้สถานเสริมความงามปิดบริการ เมื่อไปถึงพบว่าร้านได้ปิดประตูด้านหน้า ทำให้ตนเองรู้สึกเอะใจ แต่ทางพนักงานแจ้งว่ามีการขออนุญาตแล้ว และให้เข้าไปทางด้านหลังร้าน ซึ่งเมื่อตนเองเข้าไปภายในก็พบว่ามีผู้มารอใช้บริการจำนวนมากทำให้ไม่รู้สึกเอะใจอะไร
โดยหลังผ่าตัดเสร็จ ผ่านไปเป็นเวลา 3 วัน ก็พบความผิดปกติหน้าอกที่ผ่าตัดแล้วมีลักษณะผิดรูป จึงติดต่อไปยังคลินิก แต่กลับได้รับคำตอบว่า อาการดังกล่าวเป็นอาการปกติ และได้นัดให้เข้าไปตรวจอีกครั้งในวันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งหลังการตรวจทางแพทย์แจ้งว่า อาการที่เกิดขึ้น มาจากพังผืด หากทิ้งไว้สักระยะอาการก็จะหายไปแต่หากรับประทานยา ก็จะช่วยเร่งให้อาการหายเร็วขึ้น จึงซื้อยามารับประทานเพิ่มเติม ในราคา 3,500 บาท เมื่อกินแล้วก็รู้สึกอาเจียนวิงเวียนศีรษะ จนต้องล้วงคออ้วก ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ จึงพยายามติดต่อไปที่คลินิก เพื่อขอเงินคืนและขอให้ถอดซิลิโคนออกไป แต่คลินิกแจ้งว่า จะให้แพทย์มาปรับแก้ทรงของหน้าอกให้แทน แต่ตนเองไม่ไว้ใจจึงได้ปรึกษาแพทย์ของคลินิกอื่น และถอดซิลิโคนออก ทำให้ต้องเสียค่าดำเนินการเอง ประมาณ 10,000 บาท
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนเองต้องการเพียงเงินค่าถอดและใส่ซิลิโคนคืน แต่คู่กรณีอ้างว่าการคืนเงินไม่สามารถทำได้โดยง่าย ต้องมีการทำหนังสือสัญญา เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายกลับมาเอาผิดหรือเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มได้ พร้อมทั้งระบุว่า หากมีการดำเนินคดีก็พร้อมสู้ถึงชั้นฎีกา และจะชดใช้เพียงเล็กน้อย เพราะตลอดระยะเวลาที่ประกอบธุรกิจมากว่า 15 ก็เผชิญกับปัญหาในลักษณะนี้มาตลอด
ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้ พยายามร้องเรียนเรื่องดังกล่าวกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็มีการแนะนำให้กลับมาไกล่เกลี่ยกันเท่านั้น แต่คลินิกดังกล่าวก็ไม่ยอมเจรจา