Home
|
อาชญากรรม

ยังคุมไม่ได้!เปลวไฟปะทุอีกฉีดน้ำยาโฟมไม่เป็นผล

Featured Image
ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว ยังคุมไม่ได้เปลวไฟปะทุอีก ฉีดน้ำยาโฟมไม่เป็นผล – กทม.ตั้งศูนย์พักพิงรองรับการอพยพประชาชน

เวลา 19.00 น. ความคืบหน้าเหตุ ไฟไหม้โรงงานเม็ดโฟม และพลาสติก ซ.กิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ ล่าสุดยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และบริเวณที่เกิดเหตุพบเปลวเพลิงเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้งจากเดิมที่มีเพียงกลุ่มควันสีดำเข้ม โดยเปลวเพลิงมีมากขึ้นเรื่อยๆ การใช้น้ำยาโฟมบินฉีดพ่นทางอากาศ โดยเฮลิคอปเตอร์ และปฏิบัติการภาคพื้นดินโดยชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตและเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนที่ระดมฉีดน้ำยาโฟมยังไม่เป็นผล อันเนื่องมาจากมีความร้อนสูง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถฉีดเข้าไปยังจุดที่เกิดการปะทุได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์

ส่วนกรณีที่มีการแชร์ข่าวแจ้งเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบรัศมี 5 กิโลเมตรเป็นรัศมี 10 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานพลาสติก บางพลี ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ได้ประสานกับจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการยืนยัน ยังคงเป็นรัศมี 5 กิโลเมตร ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากประกาศเดิม โดยอำนาจหน้าที่ในการประกาศให้ประชาชนอพยพ เป็นของผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลอย่างเป็นทางการจากจังหวัดเท่านั้น

กทม.ตั้งศูนย์พักพิงรองรับการอพยพประชาชนจากเหตุเพลิงไหม้โรงงาน จ.สมุทรปราการ

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 11/2564 กรณีเหตุระเบิดและไฟไหม้ภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 03.20 น. ที่ผ่านมา ว่า

ที่เกิดเหตุมีพื้นที่ต่อเนื่องกับกรุงเทพมหานคร 2 เขต คือ เขตประเวศ และเขตลาดกระบัง โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้ประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิงชนิดฉีดโฟมที่จะเข้าไประงับเหตุ จึงมอบหมายให้ นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน ณ จุดเกิดเหตุ ภายในซอยกิ่งแก้ว 21

พร้อมทั้งสั่งการให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 80 นาย พร้อมรถดับเพลิง และอุปกรณ์ดับเพลิงไปถึงที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย รถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำดับเพลิง (6,000 ลิตร และ 10,000 ลิตร) รถกู้ภัยสารเคมี รถบรรทุกอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ (SCBA) จำนวน 38 คัน, น้ำยาโฟม (ชนิด AFFF) ดับเพลิงสารเคมี 321 ถัง (1 ถัง บรรจุ 20 ลิตร) โดยปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้นายขจิต ชัชวาณิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมศูนย์กีฬาบึงหนองบอน เขตประเวศ สำหรับจัดเตรียมเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว หากมีการอพยพประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม โดยใช้อาคารศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หนองบอน สำนักการระบายน้ำ ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กีฬาบึงหนองบอน เขตประเวศ ใช้พื้นที่ชั้น 1 และชั้น 2 ของอาคารเป็นที่นอน สามารถรองรับประชาชนได้จำนวน 400 คน แบ่งเป็นชายหญิง หรือแยกเป็นครอบครัว

พร้อมทั้งสั่งการให้สำนักพัฒนาสังคม นำรถครัวสนามเคลื่อนที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 คัน เตรียมประกอบอาหารรองรับประชาชนที่อพยพเคลื่อนย้าย ตั้งแต่มื้อเย็นวันนี้เป็นต้นไป รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมืออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ตลอดจนดูแลความปลอดภัยและรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่

ดังนี้ มอบหมายให้ศูนย์บริการสาธารณสุข 57 (บุญเรือง ล้ำเลิศ) ดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งประชาชนที่อพยพมาจะได้รับชุดเครื่องนอน เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ยาดม ครีมทาแก้แพ้สำหรับผิวหนัง สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สนับสนุนชุดเครื่องนอน สำนักสิ่งแวดล้อม จัดเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่ ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อกรุงเทพมหานครเพื่อรับการดูแลในเบื้องต้น ได้ที่สำนักงานเขตประเวศ โทร. 0- 2328- 7149 ต่อ 6383

 

กห.สั่งเร่งระดมกำลังและลำเลียงโฟมเข้าช่วยดับไฟจากโรงงานสารเคมี

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ทุกเหล่าทัพ ได้จัดส่งกำลังพล ยานพาหนะ รถดับเพลิงโฟมและสารเคมี ชุดเผชิญเหตุสารเคมี อากาศยานไร้คนขับ รวมทั้งรถพยาบาล พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์สนามและทหารสารวัตร เข้าพื้นที่เสริมการทำงานของ จว.สมุทรปราการแล้วที่ผ่านมา ในการควบคุมเหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมี หมิวนี้ เคมีคอล จำกัด และเกิดเหตุระเบิดที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

โดย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับสั่งการทุกเหล่าทัพ ให้เร่งเข้าไปสนับสนุน จ.สมุทรปราการ เคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนด และให้ระดมขนย้ายโฟมดับเพลิงที่มีอยู่ของทุกเหล่าทัพ เร่งเข้าไปสนับสนุนการดับไฟและการควบคุมมลพิษจากสารเคมีในพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

โดยให้จัดชุดเผชิญเหตุสารเคมีสนับสนุนการทำงานร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ให้เตรียมเครื่องมือกลสายช่างสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ต่อเนื่องกันไป เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube