กรมศุลกากร ยึดเฮโรอีน มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ซุกซ่อนในถังสี เตรียมส่งออกออสเตรเลีย
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกับนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และกระทรวงยุติธรรม แถลงผลจับกุม เฮโรอีน น้ำหนักกว่า 314 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 940 ล้านบาท ซุกซ่อนมาในถังสีอะคริลิก เตรียมส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย
นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ระบุว่า เฮโรอีนดังกล่าว ถูกตรวจพบที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเจ้าหน้าที่สังเกตพบสินค้าที่มีความน่าสงสัย เอกสาร สำแดงสินค้า 2 รายการ เป็นสีอะคริลิก น้ำหนัก 6,750 กิโลกรัม แบ่งเป็น ถังพลาสติกสีฟ้า จำนวน 135 ถัง และถังพลาสติกสีม่วงอีก 135 ถัง ส่งออกไปยังปลายทางประเทศออสเตรเลีย
เข้าเงื่อนไขให้เปิดตรวจ โดยใช้การเอกซเรย์ตรวจสอบ จนพบความผิดปกติ จึงเปิดดูและพบวัตถุต้องสงสัยบรรจุในกล่องพลาสติกสีใส ห่อด้วยเทปพลาสติก สีน้ำตาล น้ำหนักประมาณ 2.4 กิโลกรัมต่อหีบห่อ เมื่อนำสารภายในมาตรวจ พบว่าเป็นเฮโรอีน จำนวน 134 หีบห่อ น้ำหนักกว่า 314 กิโลกรัม
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระบุว่าจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ส่งสินค้าดังกล่าวเป็นหญิงชาวไทย ซึ่งตำรวจได้ขยายผลจับกุมเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะให้การซัดทอดว่า ถูก นายเอก อายุ 38 ปี เป็นผู้ว่าจ้างให้นำสินค้าไปส่ง และเมื่อตรวจสอบประวัติของนายเอก พบว่าเป็นเครือข่ายเดียวกับเครือข่ายที่เคยนำเฮโรอีนและไอซ์ ส่งออกไปไต้หวันและออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้หลายครั้ง
โดยตำรวจไทยสามารถสกัดจับได้ก่อน 2 ครั้ง คือกรณีส่งเฮโรอีน 214 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกรอบรูปไม้แกะสลัก เตรียมส่งออกไปไต้หวัน เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และ ส่งเฮโรอีน 75 กิโลกรัม ซุกซ่อนในอะไหล่รถยนต์ เตรียมส่งออกไปไต้หวันเช่นกัน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ส่วนอีก 3 ครั้ง ตำรวจออสเตรเลียตรวจยึดได้ โดยเป็นเฮโรอีนและไอซ์ ที่ซุกซ่อนอยู่ในซองกะทิผง เสื้อผ้าไหม และกะทิกระป๋อง เมื่อ 2563
โดยการข่าวขณะนี้พบว่า นายเอก ได้หนีกบดานอยู่ใน สปป.ลาว อยู่ระหว่างประสานทางการทูตเพื่อติดตามจับกุมนายเอกต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news