ผู้ว่าฯกทม. เผย คุมได้แล้ว ไฟไหม้โรงงานลาดกระบัง ไม่มีสารพิษรั่วไหล – ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมฯ เสนอสั่งปิดโรงงานถาวร ยันคนงานปลอดภัย
เวลา 20.20 น. นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานฟอลรอลเมนูเฟคเจอรริ่ง กรุ๊ป ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ว่า ไฟไหม้โรงงานลาดกระบัง ซึ่งโรงงานดังกล่าวผลิตหัวน้ำหอม และผลิตภัณฑ์พวกสบู่ แชมพู เจล โดยภายในมีถังแอลกอฮอล์ และเอทานอล 7 หมื่นลิตร แต่ขณะนี้พนักงานดับเพลิงสามารถฉีดน้ำกันไว้ทั้งหมดแล้ว และสามารถควบคุมได้ประมาณ 70-80%
ส่วนข้อสันนิษฐานของการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว คาดว่าต้นเพลิงเกิดจากข้างภายในโรงงานช่วงเก็บบรรจุภัณฑ์ต่างๆไว้ ส่วนการควบคุมเพลิงในครั้งนี้เชื่อว่าจะไม่รุนแรงมากนัก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการระดมเคมีโฟมจากอุตสาหกรรมที่อยู่รอบๆ และจากบางชัน อีก 220 ลิตร เข้ามาไว้ เนื่องจากก่อนหน้านี้โฟมของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ได้นำไปช่วยเหตุเพลิงไหม้ ที่หมิงตี้เคมิคอล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างการพูดคุยและหารือกับทางผู้จัดการโรงงาน และหน่วยกู้ภัย เพื่อควบคุมสถานการณ์ดังกล่าว โดยในพื้นที่ยังคงมีการเร่งระดมฉีดน้ำเข้าไปในอาคาร ประกอบกับมีฝนตกลงมาในพื้นที่จึงเริ่มเป็นห่วง ว่าตัวอาคารจะเกิดการถล่มลงมา เพราะเสียหายจากไฟไหม้และจากมีการใช้น้ำจำนวนมาก
20.30 น. ควบคุมเพลิงในวงจำกัด เหตุเพลิงไหม้บริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่งกรุ๊ป ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ตั้งแต่ 19.14 น. ขณะนี้การใช้น้ำเป็นผลแสงเพลิงเริ่มลดน้อยลง นักดับเพลิงแจ้งว่าสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด และไม่กระทบบ้านเรือนมาก โดยมี พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บัญชาการในที่เกิดเหตุ
เวลา 21.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการควบคุมเพลิงที่ไหม้โรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ว่าสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหาสารเคมีรั่วไหลที่จะเป็นอันตราย ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้นั้นต้องรอการพิสูจน์หลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร พร้อมทั้งขอบคุณมูลนิธิอาสาสมัคร ที่มีส่วนร่วมสนับสนุนภารกิจนี้
ด้าน นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ส่วนความเสียหายเบื้องต้นพบว่าภายในอาคารถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด แต่โครงสร้างหลักของตัวอาคารยังไม่เสียหาย ส่วนปริมาณแอลกอฮอล์ภายในโรงงาน ดับเพลิงใช้น้ำยาโฟมฉีดหล่อเลี้ยงไว้ทันทำให้เพลิงไหม้ไม่ถึง ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีคนงานได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทราบว่ามีพนักงานดับเพลิงได้รับบาดเจ็บ ขณะเข้าพื้นที่เล็กน้อยเท่านั้น ส่วนความเสียหายทางบริษัททำประกันไว้หมดจึงไม่น่ามีปัญหาอะไร
สำหรับผลประกอบกิจการของโรงงานของดังกล่าว มีเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท มีคนงานกว่า 130 คน หลังจากนี้ก็เสนอ ผู้ว่าฯ กทม. ใช้อำนาจตาม มาตรา 39 แห่ง พ.ร บ.โรงงาน พ.ศ.2539 มีคำสั่งปิดโรงงานดังกล่าวถาวร แต่หากเจ้าของโรงงานต้องการประกอบกิจการ ก็ต้องทำเรื่องขอขึ้นมาใหม่ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้ว่าการอุตสาหกรรมฯ กล่าวยอมรับว่าหลังจากนี้จะมีต้องมีการทบทวน และปรับปรุงเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินของนิคมอุตสาหกรรมฯ ทุกแห่งทั่วประเทศ เนื่องจากการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวแตกต่างจากแผน ยังไม่ค่อยมีคนกล้ารับผิดชอบ รวมถึงทบทวนเรื่องของวัตถุดิบที่ใช้ในการดับเพลิง เช่น โฟม ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุที่โรงงานแห่งนี้ โฟมได้ถูกลำเลียงไปช่วยที่ โรงงานหมิงตี้ เคมิคอล จำกัด จนหมด ทำให้ต้องไปขอยืมจากนิคมอุตสาหกรรมข้างๆ ดังนั้นจึงต้องมีการทบทวนในเรื่องนี้ด้วยเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ทันหากเกิดเหตุในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news