ตำรวจเริ่ม ตั้ง ด่านตรวจ รับ เคอร์ฟิว วันแรก กวดขันเอาจริง คนเจตนาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงพื้นที่ไปดูการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชเทวี ขาเข้า ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของพื้นที่ สน.พญาไท และแยกนานา ถนนสุขุมวิท พื้นที่รับผิดชอบของ สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 88 ด่านตรวจ ชั้นในกรุงเทพมหานคร
ซึ่งตั้งระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. ที่ตั้งเพิ่มเติมนอกเหนือจากด่านคัดกรองโควิด-19 ขาเข้ารอบกรุงเทพมหานคร 6 จุดหลัก ซึ่งตั้งตลอด 24 ชั่วโมง
พลตำรวจโทภัคพงศ์ เปิดเผยว่า ตำรวจนครบาลมีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ทุกจุดตรวจ โดยกำชับให้มีการป้องกันการแพร่ระบาดระหว่างการตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะ โดยตำรวจจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และฉีดพ่นเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดตลอดเวลา โดยตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ยังด่านตรวจจะต้องฉีดวัคซีนครบโดส เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและปลอดภัย
นอกจากนี้ บุคคลที่ผ่านด่านตรวจทุกคน จะถูกตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากรด้วย ว่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหรือไม่ เป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไปในตัวด้วย อีกทั้งยังฝากถึงประชาชนให้ปฏิบัติตาม อย่าออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยไม่จำเป็น หากตรวจสอบแล้วพบว่าออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็นก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน
สำหรับการตั้งด่านตรวจดังกล่าว ย้ำว่า หากเป็น 6 กลุ่มอาชีพ คือ บุคลากรทางการแพทย์ , พนักงานขนส่งสินค้า , บุคลากรในระบบขนส่งมวลชน , กลุ่มบุคคลที่ต้องออกไปช่วยเหลือประชาชน เช่น เจ้าหน้าที่กู้ภัย-กู้ชีพ , ผู้ดูแลระบบสาธารณูปโภคทุกรูปแบบ และบุคคลที่ต้องทำงานกะกลางคืน ที่ต้องเดินทางในช่วงที่มีการประกาศเคอร์ฟิวสามารถทำได้ แต่ต้องมีเอกสารรับรองจากต้นสังกัดด้วย
ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับการยกเว้นใน 6 กลุ่มนี้ ถูกเรียกตรวจและพบว่ามีเจตนาฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามที่มีการประกาศบังคับใช้กฎหมาย ตำรวจก็จะดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งมีโทษจำคุก 2 ปี และปรับ 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และจะคุมตัวส่งฟ้องศาลเช้าวันรุ่งขึ้นทันที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news