พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมชุมนุมที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา วานนี้(10 ธ.ค. 63) พบว่าช่วงท้ายของกิจกรรมมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มไปทำกิจกรรมย่อยบนถนนราชดำเนิน และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งต้องแยกพิจารณาดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกคือผู้ขออนุญาตจัดการชุมนุม จะเข้าข่ายฐานกระทำผิดเงื่อนไขการชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ไม่สามารถควบคุมผู้ชุมนุมให้ปฏิบัติตามข้อตกลงได้
ส่วนที่ 2 คือ ผู้ที่ทำกิจกรรม ที่จะถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนเงื่อนไขการชุมนุมในที่สาธารณะ ส่วนเนื้อหาการชุมนุมจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียด
พลตำรวจตรีปิยะ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวานนี้ที่กลุ่มการ์ดชื่อว่า WEVO (วีโว่) ทำกิจกรรมรื้อรั้วลวดหนามที่ตำรวจนำไปทำเป็นแนวกั้น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยซึ่งพื้นที่ดังกล่าวผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ จากเหตุดังกล่าวพบว่ามีตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และความผิดที่เกี่ยวกับการทำให้เสียทรัพย์ ส่วนคนที่ปาวัตถุที่ทำให้เกิดควันระหว่างเหตุความวุ่นวาย ต้องรอพิสูจน์ก่อนว่าเข้าข่ายเป็นวัตถุระเบิดหรือไม่ ซึ่งตำรวจได้บันทึกภาพผู้ต้องสงสัยไว้ทั้งหมดและฝ่ายสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามความผิดที่เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนหลังจากเหตุความวุ่นวายดังกล่าว กลุ่มการ์ดวีโว่ได้ไปทำกิจกรรมพ่นสีลงบนพื้นถนนและลงบนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งตั้งอยู่หน้ากระทรวงคมนาคม ใกล้แยก จปร. ถนนราชดำเนินนอก พบว่าเข้าข่าย 2 ความผิด คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ส่วนข้อความที่เกิดจากการพ่นสีสเปรย์ จะพิจารณาด้วยว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ต่อไป