ตำรวจ นครบาลแถลงรับมือม็อบกลุ่มทะลุฟ้าต่อเนื่องรายวัน ยันตำรวจใช้ความอดทนถึงที่สุด – ย้ำชุมนุมผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าวันนี้กลุ่มทะลุฟ้า ได้ประกาศนัดหมายชุมนุม บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยย้ำเตือนว่าการรวมตัวมั่วสุมชุมนุม จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ
ส่วน การชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อเนื่องสามเหลี่ยมดินแดง จับผู้ต้องหารวม 3 คน 1 ในนั้น คือ นายธนเดช ศรีสงคราม หรือ ม่อน อาชีวะ ตามหมายศาลแขวงดุสิต ในข้อหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความผิดอื่น โดยจากนี้ สถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ต่าง ๆ จะมีการรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการชุมนุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ถึงปัจจุบัน มีคดีเกี่ยวกับการชุมนุม 82 คดี มีผู้เข้าข่ายถูกดำเนินคดี 444 คน จับได้แล้ว 187 คน นอกจากนี้ ยังพบมีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้คนเข้าใจผิดการทำหน้าที่ของตำรวจ โดยนำภาพคลิปวีดีโอ ตั้งแต่ปี 2562 มาใส่ข้อมูลว่า ตำรวจควบคุมฝูงชน ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม โดยยืนยันว่า การกระทำดังกล่าว ทั้งผู้ผลิต นำเข้า หรือ แชร์จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุม ตำรวจใช้ความอดทนอย่างถึงที่สุด รวมทั้ง ใช้หลักนิติศาสตร์ควบคู่รัฐศาสตร์โดยพยายามลดการเผชิญหน้า และลดความรุนแรงให้มากที่สุด แต่เมื่อมีการกระทำความผิดกฎหมาย ก็จำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ ซึ่งทุกขั้นตอนตำรวจดำเนินการภายในกรอบกฎหมายกำหนด เน้นรักษาพื้นที่ และไม่ให้กระทบต่อประชาชนบริเวณแฟลตดินแดง
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการนัดหมายชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จึงแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเป็นถนนราชดำเนินตลอดทั้งสาย,ถนนหลานหลวง,ถนนดินสอ,ถนนตะนาว,ถนนนครราชสีมา,ถนนประชาธิปไตย,สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ส่วนผู้เดินทางระหว่างฝั่งธนฯ และฝั่งพระนคร สามารถใช้ สะพานพระราม 8 สะพานซั้งฮี้ สะพานกรุงธนบุรี และสะพานพุทธฯจะสะดวกกว่า พร้อมแนะนำให้ติดตามข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่สุดเพราะผู้ชุมนุมอาจเปลี่ยนสถานที่ตลอดเวลา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
