ตำรวจไซเบอร์ จับผู้ต้องหาพร้อมวัตถุระเบิด รับสารภาพนำไปป่วนชุมนุมแยกดินแดง ขยายผลพบต้นทางมาจากโรงงานเอกชน จ.สมุทรปราการ 300 บาท ต่อ 100 ลูก
พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย พร้อมของกลางวัตถุระเบิดจำนวนมาก และโทรศัพท์มือถือ ในข้อหา “ทำ ซื้อ มีใช้ สั่ง นำเข้า ค้า หรือจำหน่ายด้วยประการใดๆ ซึ่งวัตถุระเบิด” ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 38, 74 มีอัตราโทษคุก 1 ปี ไม่เกิน 20 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 40,000 บาท
จากการปฏิบัติหน้าที่ของ สอท. นานกว่าหนึ่งเดือนพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นแอบลักลอบผลิต และจำหน่ายวัตถุระเบิดให้กับประชาชนทั่วไปผ่านทางแอปพลิเคชัน tiktok ที่ใช้ชื่อ chiranan110411 จนกระทั่งลงพื้นที่ตรวจสอบพบแหล่งผลิตและที่ซุกซ่อนของกลางจำนวน 4 จุด ในพื้นที่เขตดอนเมือง พบของกลางถูกซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพัก 75 ลูก อีก 2 จุดไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย คือ นายราชศักดิ์ สาสุข อายุ 23 ปี, นายโยธิน จันสม อายุ 23 ปี และ นางสาวจิระนั้นท์ ใจจา
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า โดยวันเกิดเหตุได้นำระเบิดปิงปองใส่เป้ไปยังบริเวณแยกดินแดง เพื่อไปแจกจ่ายให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมนำไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่บริเวณแยกดินแดง โดยมีการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน tiktok มาแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดสั่งมาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 จำนวน 100 ลูก ในราคา 300 บาท ที่ผลิตมาจากโรงงานเอกชนใน จังหวัดสมุทรปราการ และนำดัดแปลงนำดินปืน 2 ลูก รวมกันเป็น 1 ลูก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แรงระเบิดสูงขึ้น พร้อมยอมรับอีกว่า ตนก็ได้ออกมาชุมนุมทางการเมือง เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2564
จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นพบ บริษัทรับส่งของที่ทางผู้ต้องหาใช้บริการนั้น จะถูกดำเนินคดีในฐานรับส่งของสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะวัตถุระเบิด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับบริษัท
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news