ผบช.สตม. สั่งเข้มชายแดนหวั่น ผกก.โจ้ ใช้เป็นช่องทางหลบหนี พร้อมกำชับพบผู้เกี่ยวข้อง สั่งล็อกตัวได้ทันที
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กำชับให้ด่านตรวจเข้าเมืองทั่วประเทศ ช่วยเฝ้าระวังกรณีผู้ต้องหาในคดี ใช้ถุงดำคลุมศีรษะรีดเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2,000,000 บาท ที่ จ.นครสวรรค์ เนื่องจากปัจจุบันด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ อยู่ระหว่างปิดทำการเนื่องจากมีวิกฤติโรคโควิด-19 และห้ามมีคนเข้าออกประเทศ แต่ยังอนุญาตเฉพาะรถส่งสินค้าจำเป็นพร้อมกำชับให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองร่วมบูรณาการกับฝ่ายความมั่นคงในการตรวจสอบด่านธรรมชาติทั่วประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ ในพื้นที่จังหวัดระนอง ที่มีทะเล เชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ยังสั่งกำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เฝ้าระวังบุคคลที่ไม่มีหมายจับแต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ตามที่ ผบ.ตร. ระบุ ถึง 13 นาย โดยถ้าพบตัวให้ล็อกตัวได้ และส่งไปหน่วยงานที่รับผิดชอบ และหากมีปัญหาตัวเองจะเป็นผู้รับผิดชอบในการกระทำของเจ้าหน้าที่ทุกนาย ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหลบหนีไปเชียงแสน และแม่สอดเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีรายงานหรือมีสิ่งบอกเหตุ แต่ยืนยันว่า ในพื้นที่ภาค 6 มีรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง แม่สอด อุตรดิตถ์ น่าน ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบฐานข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และระบบไบโอเมตริกส์ ยังไม่พบรายชื่อผู้ต้องหาเข้าสู่ระบบ เดินทางเข้าออกประเทศ
ผบช.สตม. ยืนยันว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ทำให้ตำรวจเสียภาพลักษณ์ และตัวเองก็รับไม่ได้ โดยจะมีดารตรวจสอบประวัติการเดินทางย้อนหลังของกลุ่มผู้ต้องหาว่า มีความสัมพันธ์กับประเทศใดเป็นพิเศษหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news