“วิสนุ” ถกเครียด ปมสอบวินัย “มนู” อดีตรอง ผบ.ตร. ปมเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ “บอส” ชี้ “สมยศ” ทำหนังสือให้การเพียงพอแล้ว ไล่สอบอัยการ-สส.ก้าวไกลต่อ
พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มี ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธาน ว่ามีข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับการจัดให้ รศ.สายประสิทธิ เกิดนิยม พบกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์(สบ 4)กองพิสูจน์หลักฐาน จนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขความเร็วรถยนต์ในคดีที่ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีขับรถยนต์เฟอรารี่ชนตำรวจจราจร สน.ทองหล่อเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี พ.ศ.2555 เป็นเหตุผลให้พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ไปเมื่อปี พ.ศ.2563 โดยที่ประชุมมีการติดตามความคืบหน้าในการขอสอบปากคำ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.
ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ ได้ส่งคำให้การเป็นเอกสารมายังคณะกรรมการแล้ว ยืนยันว่า ในวันที่ 26-28 ก.พ.2559 นั้น ตนได้เดินทางไปประชุมคณะกรรมการฟุตบอลโลกที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และกลับมาประเทศไทยในเช้าวันที่ 28 ก.พ.59 และในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 29 ก.พ.59 ช่วงเช้า ได้เดินทางไปพบกับ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เนื่องจากมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมานาน และยอมรับว่าได้อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ รศ.สายประสิทธิ์ พบกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ประมาณเกือบ 30 นาที แต่ไม่ได้กดดัน บังคับ หรือชักจูง ให้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แก้ไขเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายวรยุทธ ต่อพนักงานสอบสวนในการสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่งของพนักงานอัยการแต่อย่างใด และยอมรับว่าเสียงในคลิปที่ใช้เป็นหลักฐานในกรณีนั้นเป็นเสียงของตนจริง
โดย พล.ต.อ.สมยศ ให้การโดยพยายามชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถดังกล่าว ไม่มีใครจะบังคับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ได้ หากเจ้าตัวไม่ยินยอมและผู้ที่จะได้ประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถนั้น ก็คือฝ่ายทนายความของผู้ต้องหา ซึ่งคณะกรรมการได้มีการถกกันในประเด็นนี้และลงมติว่าในส่วนของ พล.ต.อ.สมยศ นั้นได้ให้ข้อมูลมาเพียงพอแล้ว
ส่วนอัยการท่านหนึ่ง ที่มีข้อมูลพาดพิงว่าอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยนั้น ไม่ได้มาให้ปากคำตามที่มีหนังสือเชิญไป โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าที่คณะกรรมการมีเชิญไปให้ปากคำ ซึ่งจะมีการทำหนังสือเชิญมาให้ปากคำอีกครั้งหรือจะทำคำให้การเป็นหนังสือมาก็ได้ ส่วนที่มีหลักฐานบางส่วนเกี่ยวพันไปถึง พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นอดีตตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่เคยร่วมทำคดีนี้ก็จะเชิญมาให้ปากคำในประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนด้วยโดยให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวภายหลังการประชุมเพียงสั้นๆว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา โดยหากมีข้อมูลพาดพิงไปถึงใครก็จะต้องเชิญมาสอบทุกราย เพื่อให้ได้ความจริงและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุดตามกรอบเวลาที่กฎ ก.ตร.กำหนด ขอให้มั่นใจในการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งได้กำชับการทำงานไปแล้วว่า ผลการสืบสวนจะต้องตอบสังคมได้อย่างมีเหตุมีผลในทุกประเด็น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news