“”ศรีรีต้า” ขึ้นศาล ไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก ถูกตัดต่อคลิปอนาจาร ปี 63 ลั่นดำเนินเรื่องถึงที่สุด
วันนี้ (8 พ.ย. 64) ที่ศาลอาญา รัชดา น.ส.ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช (นักแสดงสาวชื่อดัง) และนายกรณ์ ณรงค์เดช (สามี) พร้อมด้วย น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ ทนายนิด้า (ทนายความ) เดินทางมาฟังการไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก จากคดีแจ้งความเอาผิดบุคคลนำคลิปวิดีโอที่ถูกตัดต่อเชิงลามกอนาจารเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ฐานความผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 63
น.ส.ศรีริต้า กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาฟังการไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก จากกรณีที่มีบุคคลนำภาพของตนตัดต่อใส่คลิปวิดีโออนาจารเผยแพร่สู้โลกออนไลน์และจงใจกล่าวหาว่าเป็นตน โดยตนขอยืนยันอีกครั้งว่าบุคคลในคลิปวิดีโอดังกล่าวไม่ใช่ตน แต่มีบุคคลตั้งใจนำภาพของตนจากอินสตาแกรมไปตัดต่อกับคลิปอนาจารหรือคลิปโป๊ของชาวต่างชาติคนหนึ่ง โดยชักจูงให้คนเข้าใจผิดว่าบุคคลในคลิปวิดีโอนั้นคือตน ซึ่งทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง รวมทั้งลดทอนคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเป็นอย่างมาก ซึ่งตนทำงานในวงการบันเทิงมากว่า 26 ปี โดยทำแต่สิ่งดีๆ ทำงานที่สุจริต มีความตั้งใจและรักในอาชีพของตนมาก ดังนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนรับไม่ได้อย่างมาก
ทนายนิด้า กล่าวว่า สำหรับคู่กรณีในวันนี้ไม่ได้เดินทางมาฟังการไต่สวนด้วย โดยบุคคลดังกล่าวตนขอยังไม่ยืนยันว่าเป็นผู้ตัดต่อหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามเป็นผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวแน่นอน โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวมีการนำรูปคุณริต้ามาขึ้นปกให้เสมือนว่าเป็นบุคคลในคลิป โดยมีการใช้ชื่อจริงและมีภาพของคุณริต้าหลายรูป ซึ่งมีการเผยแพร่ให้กับบุคคลอื่นเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวถือมีความผิดในเรื่องของการหมิ่นประมาทด้วย โดยการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายหลายบท อย่างไรก็ตาม ตนได้มีการส่งฟ้องทุกข้อหา แล้วแต่ศาลจะพิจารณาว่ามีข้อหาใดเข้าข่ายบ้าง สำหรับคดีเผยแพร่สิ่งลามกอนาจาร มีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับในคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โทษปรับสูงสุด 2 แสนบาท ซึ่งหากเข้าทุกข้อหาจะสามารถระวางโทษได้สูงสุด 7 ปี และเรียกค่าเสียหายได้จำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีมูลค่าน้อยเมื่อเทียบกับชื่อเสียงของคุณริต้าที่เสื่อมเสียไป
น.ส. ศรีริต้า กล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าวตนจะดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างถึงที่สุด และหากพบเห็นการกระทำดังกล่าวที่ส่งผลให้ตนและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียงและเกิดความอับอายอีกจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกัน ทนายนิด้า กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่จำเลยไม่มาไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกวันนี้ ถือว่าเป็นการเสียสิทธิ์ โดยตามหลักกฎหมายแล้ว จำเลยจะมาหรือไม่ก็ได้ แต่ในนัดครั้งถัดไปหากจำเลยยังไม่มา ศาลจะทำการออกหมายจับตามฎหมายต่อไป
ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า ตนสงสารภรรยา เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ภรรยาต้องมาศาล และมาในเรื่องที่ภรรยาไม่ได้เป็นคนทำ ทั้งนี้ ก่อนดำเนินคดีมีการปรึกษากันแล้ว โดยตนสนับสนุนการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างเต็มที่ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่ทำการตัดต่อ รวมทั้งบุคคลที่แชร์และกำลังจะแชร์ในอนาคตด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news