ชาวบ้านชี้ตำรวจวิสามัญโจรชิงทรัพย์ร้านซักผ้าหยอดเหรียญไม่เกินกว่าเหตุ สอบประวัติพบสุดโหดใช้ไฟฟ้าช๊อตเหยื่อและถีบจยย.ล้มก่อนข่มขืน
เจ้าของห้องเช่า ย่านถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี เขต ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เปิดเผยเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับตำรวจสภ.ชัยพฤกษ์ วิสามัญ นายเฉลิม อายุ 46 ปีผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านซักผ้า (แบบหยอดเหรียญ)ภายในซอยรังสิต-นครนายก 16 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีเสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องราวและไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ แต่หลังเกิดเหตุแล้วได้มีเสียงสะท้อนจากลูกบ้าน(ผู้เช่า)ว่า รู้สึกมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น เพราะในห้องพักมีคนอาศัยจำนวนมากมีการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโควิด-19 ทำให้ไม่รู้ว่าเป็นคนดีหรือคนร้ายและมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ที่ทำเกินกว่าเหตุ เพราะมาทราบภายหลังว่าผู้ตายเองเคยก่อเหตุมาหลายพื้นที่และมีการพกอาวุธติดตัวอยู่ตลอด
ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่าจากการตรวจสอบประวัติของคนร้ายย้อนหลังพบว่า เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2551 โดยเมื่อปี 2552 ถูกดำเนินคดีโทรมหญิงชิงทรัพย์ จนกระทั่งตำรวจภูธรภาค1จับกุมดำเนินคดีและถูกศาลตัดสินจำคุก10ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี 2563 จนกระทั่งมาก่อเหตุเมื่อ 28 ตุลาคม 2564 ที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญดังกล่าว
สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายลักษณะจะใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่ตระเวนหาเหยื่อในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี 2ครั้ง, ปทุมธานี 3ครั้ง, กรุงเทพมหานคร 2ครั้ง และจังหวัดนครราชสี1 ครั้ง รวม 8 ครั้งโดยคนร้ายจะใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์เหยื่อที่เป็นผู้หญิงจนล้มลง ก่อนจะใช้กำลังบังคับข่มขืนและจี้เอาทรัพย์สินหลบหนีไป ขณะเหยื่อบางรายจะถูกคนร้ายใช้ไฟฟ้าช็อตจนหมดสติและข่มขืนและเอาทรัพย์สิน โดยมีผู้หญิงตกเป็นเหยื่ออย่างน้อย 2-3คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กหญิงอายุต่ำกว่า18 ปีด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news