Home
|
อาชญากรรม

จับแก๊งหลอกลงทุนออนไลน์สูญ 10 ล้านบาท

Featured Image
ตำรวจ PCT จับกุมขบวนการหลอกลงทุนแอบอ้างบริษัทดัง มีผู้เสียหาย 15 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วยพล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.ท.สถิตย์ พรมอุทัย รองผบก.สส.สตม. ตำรวจPCT ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการหลอกลงทุนในแพลตฟอร์มคำสั่งซื้อ KING POWER (THAILAND) มีผู้เสียหาย 15 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า มีกลุ่มคนร้ายได้หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนหาค่าคอมมิชชั่นผ่านแอปพลิเคชันไทยเดลี่ เป็นโฆษณาเชิญชวน เมื่อสนใจกดเข้าไปดูจะส่งลิงก์ให้เข้าไปที่กลุ่มไลน์ open chat โดยคนร้ายได้ใช้ชื่อบัญชีแสดงตนเป็นบุคคลมีชื่อเสียง อ้างเป็นตัวแทนฝ่ายบริการจาก KING POWER (THAILAND) ชักชวนให้ลงทุนสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จนผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนผ่านแอปออนไลน์ ซึ่งบริษัทการันตีผลตอบแทนกำไรจากกองทุน 20-30% ของการลงทุนทุกครั้ง โดยใช้เงินลงทุนต่ำและได้รับผลกำไรสูงในระยะเวลาอันสั้น มูลค่าความสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ได้สืบสวนจนสามารถขออนุมัติหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ นายรัฐวิทย์ และ นายพงศ์ระวี (สงวนนามสกุล) ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 20 ราย ซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคาร

 

นอกจากนั้นพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ยังแถลงผลการจับกุม นายกวินกรณ์ เจ้าของแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ MBC Club ที่มีผู้เสียหายรายหลาย มูลค่าความเสียหายประมาณพันล้านบาท หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT สืบสวนจนทราบว่า ช่วงปี 2562 นายกวินกรณ์ ร่วมกับพวก ชักชวนผู้เสียหาย

 

ซึ่งจะเลือกจากบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือ Influencer เพื่อใช้สร้างความน่าเชื่อถือ ร่วมลงทุนในแผนการลงทุนชื่อ MBC Club ที่จะมีแผนการลงทุนประเภทต่าง ๆ ทั้งการใช้เงินลงทุนเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 5 หมื่น ถึง 5 ล้านบาท หรือการลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล โดยอ้างจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ พร้อมจ่ายเงินปันผลจะตอบแทนทุก 40 วัน มีเงินปันผลคิดเป็นกำไรเฉลี่ยร้อยละ 40 ต่อเดือน อีกทั้ง มีการกระตุ้นให้ผู้เสียหายรีบเร่งลงทุนต่อเนื่อง เมื่อดำเนินการไปได้ระยะหนึ่ง เงินที่ผู้เสียหายลงทุนไปแล้วทั้งหมด ไม่สามารถเบิกถอนกลับมาได้ และผู้ต้องหาได้หลบหนีไป

 

ต่อมา ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า นายกวิณกรณ์ หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จึงติดตามจับได้ที่ป้ายรถเมล์ หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์วาน-แคราย จากการสอบสวน นายกวิณกรณ์ ปฏิเสธที่จะให้การ แต่ตำรวจคาดว่า มีผู้เสียหายกว่า 1,000 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งพบว่า ผู้เสียหายบางคน ร่วมลงทุนถึงหลักสิบล้านบาท

 

โดยขณะนี้ ตำรวจได้อายัดบัญชีของผู้ต้องหาไว้ตรวจสอบแล้ว แต่ยอมรับว่า ผู้ต้องหาได้มีการถ่ายโอนทรัพย์สินบางส่วนไปแล้ว เพราะคดีเกิดขึ้นมาประมาณ 2 ปีแล้ว ทั้งนี้ ยังพบอีกว่า นายกวิณกรณ์ เคยร่วมกับพวก กระทำความผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ โดยเปิดบริษัทชื่อ พีบี.สมาร์ทฟาร์เมอร์ ซึ่งอ้างว่า นำเทคโนโลยีการเกษตรมาผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแม่เหล็ก เพื่อมาใช้ในเชิงพาณิชย์อีกด้วย ซึ่งตำรวจจะติดตามผู้เสียหาย มาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube