ผู้กำกับสุทธิสาร ยัน รอง สว.จราจร ยัน ขับรถย้อนศรชนรถแจ๊สคู่กรณี อาการโคม่า ยันเป็นการไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง
ทีมข่าวลงพื้นที่เข้าสอบถามชาวบ้านบริเวณ สถานีสูบน้ำคลองบางซื่อ ขาเข้า(ฝั่งใต้) บนถนนวิภาวดีขาเข้า ซึ่งเป็นจุดเกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ตราโล่ ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน 27449 ของ ร.ต.ท. ประสิทธิ์ คำฝาบัว อายุ 54 ปี รองสารวัตรจราจร สน.สุทธิสาร ชนกับ รถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีขาว โดยมี ชายและหญิง 2 ราย เป็นผู้ขับขี่และนั่งคู่มาด้วยกันในรถ ส่งผลให้ ร.ต.ท. ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนคู่กรณี 2 รายถูกส่งรักษาที่โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน และฝ่ายสอบสวน รวมทั้ง พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.สุทธิสาร ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.ท. ประสิทธิ์ ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและรวบรวมพยานหลักฐาน หาข้อเท็จจริง พร้อมกับกล่าวถึง ร.ต.ท. ประสิทธิ์ ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา โดยระบุว่า หลังจากเลิกตั้งด่านตรวจ เมื่อเวลา 5.00 น.ที่ผ่านมา จากนั้นได้รับมอบหมายให้ไปตรวจตรารถยนต์ที่จอดกีดขวางเส้นทางการจราจร ถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า ตั้งแต่แยกสุทธิสาร – 5 แยกลาดพร้าว
ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ร.ต.ท. ประสิทธิ์ ที่จะต้องปฏิบัติภารกิจนี้ทุกวัน ส่วนกรณีที่ ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ไปในเส้นทางดังกล่าว ก็ยังคงย้ำว่าเป็นการไปปฏิบัติตามหน้าที่ เนื่องจากเป็นชั่วโมงเวลาเร่งด่วน เพื่อต้องไปเร่งระบายรถที่มักจะมีประชาชนมาจอดกีดขวางเส้นทางการจราจร ช่องทางซ้ายสุด ทำให้การจราจรติดขัด
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ จะต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ว่าเป็นความประมาทของทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่ แต่หากพบว่า ตำรวจผิด ก็ต้องยอมรับไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ อีกทั้งในส่วนของคู่กรณี ได้ส่งตัวไปรักษาอาการ รวมทั้งตรวจเลือดเพื่อหาสารเสพติด และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ รวมทั้งตรวจสอบในเรื่องของความเร็วรถด้วย
หากพบว่ามีความผิดในส่วนใดก็จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน พร้อมยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และย้ำว่า ร.ต.ท. ประสิทธิ์ เป็นตำรวจที่ดี ปฏิบัติงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ส่วนอาการบาดเจ็บล่าสุด ยังพักรักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี ซึ่งอาการยังโคม่า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
