ตำรวจร่วมมูลนิธิเมาไม่ขับเปิดตัวโครงการ”อาสาตาจราจร” มอบรางวัลแก่ผู้บันทึกภาพการทำผิดกฎจราจร -ในรอบ 10 วัน จับกุมผู้ฝ่าฝืน 32,889 ราย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) พร้อมด้วยนายคณาวัฒน์ วงศ์แก้ว ผู้แทนคณะทำงานเสริมสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนจากคลิปวีดิโอของวุฒิสภา นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับและภาคีเครือข่ายร่วมแถลงผลการระดมบังคับใช้กฎหมายจราจรเข้มข้น และเปิดโครงการ อาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลและเกียรติบัตรให้กับผู้ส่งภาพหลักฐานที่ได้รับคัดเลือก
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ศจร.ตร. กำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ฯ ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและเป็นอันตรายต่อผู้อื่น โดยเน้น กวดขัน จับกุม ผู้กระทำผิดใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่ ขับรถย้อนศร, ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร, ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า และขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และหากพฤติการณ์การกระทำผิดตามข้อหาดังกล่าว มีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน หรือประชาชนทั่วไปจะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม
สำหรับผลการบังคับใกฎหมายระหว่างวันที่ 15-24 พ.ย. 64 รวม 10 วัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวนมาก อาทิ ขับรถย้อนศร 20,671 ราย , ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 8,748 ราย, ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า 2,870 ราย และขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว 600 ราย รวมผลการดำเนินการทั้ง 4 ข้อหา จับกุมรวมทั้งสิ้น 32,889 ราย
สำหรับโครงการ “อาสาตาจราจร” เพื่อให้ประชาชนร่วมกันทำหน้าที่พลเมืองดีในการตรวจตราการกระทำผิดฎหมายจราจร โดยเปิดช่องทางให้ประชาชนส่งคลิป กล้องหน้ารถหรือคลิปจากมือถือ ที่บันทึกเหตุการณ์การทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนโดยส่วนรวม ส่งคลิปมายัง 4 ช่องทาง ได้แก่ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., สวพ.91 ,จส.100 และ เพจมูลนิธิเมา ไม่ขับ โดย ศจร.ตร. จะรวบรวมข้อมูลส่งต่อไปยังสถานีตำรวจพื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ตำรวจจะบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะ การสวมหมวกกันน็อค 100% ช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม ถึง 4 มกราคม 2565 พร้อมต่อยอดโครงการอาสาตาจราจร เปิดรับคลิปการกระทำผิดกฎจราจร พร้อมมอบรางวัล 10,000 บาท ให้ทุกวัน วันละ 1 คลิป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news