Home
|
อาชญากรรม

ตม.ขยายผลลักลอบขนแรงงานเถื่อน-จับแล้วกว่า5พัน

Featured Image
รองผบช.สตม.สั่งขยาผลขบวนการนำพา 18 แรงงานต่างด้าว ประสบเหตุตายเจ็บที่อยุธยา เชื่อมีเป้าหมายงานทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชั้นใน พร้อมเปิดสถิติจับกุมตั้งแต่ 1พ.ย.-ปัจจุบัน กว่า 5 พันคน

 

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีเกิดอุบัติเหตุรถขนแรงงานต่างด้าวพลิกคว่ำบริเวณแยกไฝ่ขวาง อ.มหาราช จว.พระนครศรีอยุธยาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 15 คน จากที่เดินทางมาทั้งหมด 18 คน

 

โดยทั้งหมดเป็นคนต่างด้าวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาแล้ว ในเบื้องต้น ตำรวจภูธรจังหวัด,ตำรจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจทางหลวง จะร่วมกันขยายผลให้ถึงขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 18คนมีเป้าหมายเดินทางเข้ามาทำงานในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทยส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม

 

รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ตั้งแต่ 1 พ.ย.จนถึงปัจจุบันมีการจับกุมคนต่างด้าวลักลอบเข้ามาค้าแรงงานผิดกฎหมายในประเทศแล้ว 5,051 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานเมียนมาร์ลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ 2 จุด คือ ทางด้านจังหวัดตาก และจังหวัดกาญจนบุรี ทั้งนี้ กรณีผู้ประกอบการมีความต้องการแรงงานมากขึ้นหลังสามารถเปิดดำเนินธุรกิจและมีการเปิดประเทศทำให้ค้าจ้างงานดีดตัวสูงขึ้นเป็นแรงงานจูงใจให้ต่างด้าวอพยพเข้ามาหางานทำในเมืองไทย โดยยอมรับว่า สตม.รับผิดชอบสกัดกั้นในช่องทางที่เข้ามาถูกกฎหมาย แต่ช่องทางธรรมชาติมีหลายหน่วยงานร่วมมือกันสกัดกั้นรวมทั้ง สตม.ด้วย

 

ทั้งนี้ พบว่าตั้งแต่ 1 -30 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างนำแรงงานเข้าสู่กระบวนการลงทะเบียนพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อออกใบอนุญาตทำงาน(บัตรสีชมพู)พบว่ามีมากกว่า 1.8 แสนคน ซึ่งได้สิทธิ์ทำงานในประเทศไทยจนถึงเดือน ก.พ. 2566 นอกจากนี้ ตั้งแต่ 1-31 ธ.ค.นี้ สตม.ขอรณรงค์เชิญชวนให้นายจ้างลงทะเบียนแรงงานที่ยังอยู่ในต่างประเทศเพื่อประสานหน่วยงานเพื่อเดินทางเข้าประเทศอย่างถูกต้องด้วย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube