ป.ป.ส.ร่วมกับตำรวจจับกุมผู้ต้องหาซุกยาใส่ถุงขนมเตรียมส่งเกาหลีใต้ ลุยขยายผลเช็กบิลผู้สั่งการ สืบพบเป็นต่างชาติหลบหนีเข้าประเทศ
วันที่ 15 ธันวาคม 2564 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงการจับกุมผู้ต้องหาซุกซ่อนยาเสพติดหลายรายการบรรจุถุงขนมเตรียมส่งไปยังเกาหลีใต้ ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1386 ถึงพัสดุต้องสงสัยปลายทางเตรียมส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.นนทบุรี เข้าตรวจสอบพบภายในเป็นถุงขนมขบเคี้ยวซุกซ่อนยาเสพติดเป็น ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 870 กรัม ยาอี 1,980 เม็ด เคตามีน 1,778 กรัม และกัญชา 2,080 กรัม จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ผู้ต้องหารายหนึ่ง
จากนั้นในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกับ บช.ปส. เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นผู้ส่งพัสดุให้กับรถยนต์รับจ้างนำไปส่งให้บริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์อีกต่อหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องหามีพฤติการณ์เสพยาไอซ์และได้ให้การยอมรับว่าเป็นผู้กระทำผิด โดยจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ถูกจ้างวานโดยชาวเกาหลีใต้ จำนวน 2 ราย ที่เคยถูกจับในฐานความผิด เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ เมื่อประมาณ เดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้รวมรวบพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ ชาวเกาหลีใต้ และผู้ร่วมขบวนการต่อไป
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้ายว่า ข้อสั่งการของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นการลักลอบการส่งยาเสพติดผ่านพัสดุภัณฑ์ทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงแค่การจับกุมเท่านั้น แต่ต้องขยายผลแต่ละเคสให้ไปจนถึงผู้อยู่เบื้องหลัง เพื่อทำลายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่อยู่เบื้องหลังการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการส่งยาเสพติด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news