Home
|
อาชญากรรม

ตร.ขอนแก่นคุม 5 ผู้ต้องหายิงพนง.รง.ดับทำแผนฯ

Featured Image
ตำรวจขอนแก่น คุม 5 ผู้ต้องหายิงพนักงานโรงงานดับ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนคุมตัวฝากขังวันนี้

 

จากกรณีที่ นาย นพดล อายุ 19 ปี ชาวบ้านดอนช้าง ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ใต้ราวนมจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนมะลิวรรณ หน้าโรงงานผลิตรองเท้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านทุ่ม ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมกับ สภ.บ้านเป็ดและ สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าวได้ทั้งหมด 5 รายประกอบด้วยนายกฤษฎา ,นายปิยบุตร อายุ 27 ปี (คู่อริคนตาย หัวโจกรวบรวมคนไป) , นายอภิวัฒน์ อายุ 28 ปี นายอภิสิทธิ์ อายุ 22 ปี คนยิงและเจ้าของรถ และนายขวัญ อายุ 27 ปี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านเป็ด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ม.ค. 2564 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ มโนมัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด เปิดเผยว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนพร้อมรถที่ใช้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุเรียบร้อยแล้วเนื่องจากเกรงว่าจะชุลมุนเพราะความโกรธแค้นของประชาชนจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญในคดีนี้ ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คนในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ในส่วนของของกลางที่ใช้ก่อเหตุคือปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 ซึ่งเป็นของ นายอภิสิทธิ์ ที่อ้างว่าทิ้งบนเขาภูเม็งแต่จำจุดทิ้งไม่ได้ ซึ่งในส่วนนี้แม้จะไม่พบปืน แต่ด้วยพยานหลักฐานต่างๆก็สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้ ในส่วนไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น หากการสอบสวนพบว่าเข้าข่ายความผิดดังกล่าว ก็สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ โดยโทษสูงสุดคือประหารชีวิต โดยในชั้นสอบสวนนั้น ทางตำรวจคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง โดยช่วงบ่ายวันนี้ภายหลังจากทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 5 คนเสร็จ ก็จะควบคุมตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น ฝากขังผัดแรกในข้อหาดังกล่าว

“จากการสอบสวนเบื้องต้นนั้น ทราบว่าผู้ตายกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งแฟนสาวของนายปิยบุตร 1 ในผู้ต้องหาที่ปะทะกับผู้เสียชีวิตนั้นได้ ท้าทายกันในเฟซบุ๊ก ซึ่งแฟนสาวของนายปิยบุตรนั้นเป็นเพื่อนร่วมงานที่โรงงานเดียวกันกับผู้ตาย โดยชนวนเหตุเริ่มต้นจากการที่นายปิยบุตรเห็นในเฟซบุ๊กว่า ผู้ตายพูดคุยกับแฟนสาว และเพื่อนร่วมงานอีกคน ทำให้เกิดความหึงหวงโดยที่ไม่รู้ว่าการพูดคุยนั้นคุยกันเรื่องอะไร ก่อนที่นายปิยบุตรจะไปทักถามผู้ตายและเพื่อนผู้ตายว่าผู้ตายเป็นใคร โดยมองไปในเชิงหึงหวงกลัวว่าผู้ตายจะมาจีบแฟนตัวเอง โดยที่แฟนของนายปิยบุตรไม่ทราบมาก่อนว่าทั้งคู่เริ่มเขม่นกัน และมีการโต้ตอบในเฟซบุ๊กได้ 2 วัน ก็มีการท้าทายกันจนเหตุการณ์บานปลายนัดกันมาเคลียร์ในจุดเกิดเหตุ โดยที่นายปิยบุตรชักชวนพวกอีก 4 คนไปด้วยกันเนื่องจากนายปิยุบตรไม่มีรถยนต์จะเดินทางมา แต่มีนายสิทธิ์ที่มีรถยนต์ พอชักชวนกันมาถึงจุดเกิดเหตุ”

พงต.อ.สุรศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อทั้งคู่เจอกันก็ปะทะคารมกันอีกโดยไม่มีการถามถึงเหตุผลใดๆ และใช้เวลาเพียงแค่ 3 นาที ก่อนที่นายโอ้จะหยิบปืนสั้นไทยประดิษฐ์ที่พกติดตัวตลอดเวลาออกมายิงผู้ตายไป 2 นัดแล้วหลบหนีพร้อมพวกรวม 5 คน ส่วนผู้ตายเมื่อถูกยิงก็ล้มลงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนที่คนงานในละแวกนั้นที่เห็นเหตุการณ์เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนกะทำงานพอดี เข้ามาดูและแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว และในจุดเกิดเหตุนั้นผู้ตายไม่ได้มีการพกอาวุธตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างแต่อย่างใด ก่อนที่ทางตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมนายเบนซ์ได้ที่บ้านและกดดันจนครอบครัวผู้ต้องหาทั้งหมดพามามอบตัว ซึ่งในคดีนี้นั้น อยากจะฝากในเรื่องการใช้โซเชียลมีเดีย เพราะข้อความบางข้อความอาจจะไม่มีอะไร แต่คนที่เห็นข้อความอาจจะตีความหมายผิดไปทำให้เรื่องเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นเสียชีวิตดังกล่าวได้ ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับวัยรุ่นอย่าใจร้อนหรือใช้อารมณ์ตัดสิน

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube