Home
|
อาชญากรรม

โผล่อีก! “ทนายตั้ม”พาเหยื่อแจ้งความ”ปริญญ์”เพิ่ม

Featured Image
ทนายตั้ม พาเหยื่อนักการเมืองคุกคามทางเพศแจ้งความเพิ่ม 7 ราย ลั่นไม่กลัวใครทั้งสิ้น หากพบช่วยผู้ต้องหาซวยแน่นอน

 

วันนี้ (18 เม.ย. 65) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พาผู้เสียหายอีก 7 คน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีกับ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาข่มขืนและกระทำอนาจาร 3 สำนวน

 

เวลาประมาณ 14.30 น. นายษิทรา เดินทางมาถึง สน.ลุมพินี พร้อมพาผู้เสียหาย 1 ราย เข้าไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน จากนั้นนายษิทรา จึงออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า วันนี้ พาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมอีกประมาณ 7 ราย หรือมากกว่านั้น ซึ่งจากการนัดหมายครั้งนี้ มีบางรายที่ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแล้วด้วย แต่ยังมีหลายรายที่ติดต่อเข้ามาเพิ่มเติม โดยผู้เสียหายคนที่มากับตนเมื่อครู่นี้ ถูกกระทำเมื่อปี 63 ถือว่ายังไม่ขาดอายุความ รวมทั้งเป็นบุคคลที่ได้ทำการอัดคลิปเสียงไว้ ซึ่งตอนนี้ประสงค์ที่จะเป็นพยานก่อน โดยจะมอบคลิปเสียงให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยืนยันว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง

 

ส่วนกรณีผู้เสียหายที่ยอมรับเงินจากผู้ต้องหานั้น ตอนนี้ได้มีการยอมรับว่า ในตอนแรกไม่ยอม แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวแล้ว จึงคิดว่าไม่สามารถทำอะไรได้ จึงรับเงินมา 2-3 ครั้ง เพราะพ่อของผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่โต

 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะเดินมาขนาดนี้แล้ว มีผู้หญิงอีก 10-20 คน มาขอให้ช่วย หากตนกลัวเหยื่อคงรู้สึกไม่มีที่พึ่ง โดยตนยังไม่ถูกข่มขู่แต่อย่างใด ยืนยันว่าผู้เสียหายทุกรายพึ่งพาตนได้ ขอให้มาบอกตน จะช่วยเหลือเต็มที่ สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาส่วนใหญ่ มักมีลักษณะชวนเหยื่อไปพูดคุยที่ร้านอาหาร จากนั้นจึงพาไปที่ห้องเชือด และทำการขืนใจในที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้เริ่มสับสน เพราะมีเหยื่อหลายคนที่ถูกกระทำ ส่วนเหตุที่ผู้เสียหายออกมาแจ้งความกันเยอะในช่วงนี้ เนื่องจากมีเหยื่อหลายรายกล้าออกมา จึงอยากออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของผู้ต้องหาด้วยเช่นกัน ยังคงยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการเมืองแน่นอน เพราะหากตนจะกลั่นแกล้งจริง คงไปกลั่นแกล้งคนที่มีแววจะชนะดีกว่า รวมทั้งผู้ต้องหาเองก็ไม่ใช่ผู้ลงสมัครด้วย

 

ทั้งนี้ หากผู้ต้องหามีความพยายามยุ่งกับพยานหลักฐาน หรือยุ่งกับผู้เสียหาย คงจะต้องดำเนินการถอนสิทธิ์ประกันตัวแน่นอน รวมทั้งยังคงคิดว่าผู้ต้องหาโรคจิต และเป็นรสนิยม เพราะมีเงินที่จะไปซื้อบริการได้ แต่กลับเลือกเหยื่อที่ไม่สมยอม และกระทำการดังกล่าวไปเรื่อยๆ

 

สำหรับช่วงนี้ต้องบอกตามตรงว่าหากใครกล้าเข้ามาช่วยผู้ต้องหา มั่นใจว่าซวยแน่นอน เพราะหากเรื่องหลุดมาถึงตน เละแน่ และจะเป็นเรื่องใหญ่

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube