“อัจฉริยะ” เดินหน้าหาหลักฐานคดีแตงโม นำนักประดาน้ำใช้โดรนบินใต้น้ำ-เครื่องแสกนโลหะงม 3 จุด ระบุทราบแล้วว่าคราบเลือดแตงโมอยู่บนเสื้อผ้าของใคร 1 ใน 5 ผู้ต้องหาก๊วนเรือ พร้อมคำใบ้ “เป็นคนที่พูดเก่งๆ”
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำนักประดาน้ำ ลงงมหาวัตถุพยานคดีการเสียชีวิตของแตงโม-นิดา โดยใช้โดรนบินใต้น้ำและเครื่องแสกนโลหะ ในประเทศไทยเพิ่งเคยนำมาใช้เพียงไม่กี่ครั้ง เช่นค้นหารถตกน้ำที่จ.นครสวรรค์ ซึ่งในวันนี้นำมา 2 ตัว ความพิเศษคือสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร มีกล้องความชัดถึงระดับ 4K 30 เฟรมต่อวินาทีและมีไฟส่องสว่าง หมุนรอบตัวเองได้ 360 องศา มีแขนจับสามารถน้ำหนักใต้น้ำได้ประมาณ 8 กิโลกรัม
นายอัจฉิยะ เชื่อว่า บาดแผลขาข้างขวาของแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ น่าจะถูกของมีคมซึ่งคนที่ทำเองไม่คงไม่นำมีดกลับบ้านเพราะมีคราบเลือด วิธีการที่ง่ายที่สุดคือการทิ้งน้ำ วันนี้จึงมีการค้นหาวัตถุพยาน 3 จุด คือ บริเวณท่าทราย, บริเวณระหว่างวัดค้างคาวกับวัดเขมาภิรตาราม และเลยวัดเขมาไป ซึ่ง 3 จุดดังกล่าวได้มาจากข้อมูลดาวเทียม
วัตถุพยานที่ต้องการค้นหาคือที่เปิดขวดไวน์ หรือมีด K2 รวมถึงแก้วไวน์และขวดไวน์ ความคาดหวังมองว่าจะเจออะไรดีๆ ถ้าหากมีการทิ้งจริง ยืนยันว่ายังอยู่ ด้านผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่า ของแบบนี้ถ้าอยู่ใต้น้ำกี่ปีก็เจอเพราะแม่น้ำเจ้าพระยา มาหาเหรียญเก่า 400-500 ปี ก็ยังคงอยู่ที่เดิม
นายอัจฉริยะ ยังระบุว่า ก่อนอัยการนัดฟังคำสั่งฟ้อง 23 มิ.ย. จะดำเนินการฟ้องตรงด้วยตนเอง จะมีการปรึกษากับทีมของส.ส.เต้ ในวันเสาร์นี้ จะไม่ยื่นดีเอส ไม่อยากให้ความหวังกับดีเอสไอ มีมาตราอยู่ในใจแล้วยืนยันว่ามีโทษสูงกว่าประมาทฯ ตอนนี้ทราบมาว่ามีคราบเลือดของแตงโม 2 จุด อยู่บนเสื้อผ้าของผู้ต้องหา 1 ใน 5 คนบนเรือ ซึ่ง DNA ตรงกับของแตงโม โดย นายอัจฉริยะได้ใบ้ว่าบุคคลดังกล่าว “เป็นคนที่พูดเก่งๆ”
“เขามีการออกโดยหน่วยงานของรัฐ ทีนี้อยู่ที่ว่าตำรวจเอาใส่ในสำนวนหรือเปล่า ส่งให้อัยการหรือไม่ เพราะที่ว่าผมร้องไปที่อัยการนนทบุรีก็ดี อัยการสูงสุดก็ดี อธิบดีอัยการภาค 1 ก็ดี ขอให้ตรวจสอบประเด็นนี้หน่อยว่าหนังสือของทางราชการมี DNA ยืนยันว่าเลือด 2 จุด ตรงกับแตงโมเสื้อที่ใส่ของผู้ต้องหาหรือไม่ เพราะเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการฆาตกรรม” นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ ยังกล่าวว่า หลักฐานดังกล่าวไม่เคยแย้งกับตำรวจ มีแต่ทำให้อัยการตรวจสอบเลย ส่วนผ้าที่ส่งพัสดุมา ไม่รู้ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เป็นทีมของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือส.ส.เต้
ส่วนกรณีที่ นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ ยืนยันว่าไม่ไป เพราะรู้อยู่แล้วเนื่องจากไปสอบปากคำมาว่าเจตนาจะรับหรือไม่รับ
ส่วนรูปภาพที่บังแจ็คส่งมา ในส่วนของตนไม่ใช้ เพราะมีมากกว่านั้น และหลักฐานที่ส่งมาทีหลังต้องตรวจสอบทั้งหมดว่าจริงหรือเท็จ ส่วนหากเจอหลักฐานจะส่งมอบให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบหา DNA ต่อไป
นายอัจฉริยะ ยังฝากถึงทนายเดชาด้วยว่า อย่าไปข่มขู่แม่แตงโม หรือไลฟ์สดลักษณะข่มขู่ เมื่อสละสิทธิทนายความไปแล้วควรอยู่นิ่งๆ ซึ่งคุณแม่ยอมรับว่ามีความกลัว ส่วนที่ ส.ส.เต้ทำไปเพราะโมโหที่ทนายเดชาไปข่มขู่แม่ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews