ผบช.ภ.7 สั่งตรวจเข้มผับ-บาร์ นั่งดื่มกินได้ห้ามเกินเที่ยงคืน หลังศบค.ผ่อนคลายเปิดได้ตั้งแต่ 1 มิ.ย. หากพบพื้นที่ปล่อยปละละเลยมีบทลงโทษ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มีโทรสารราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 1 มิ.ย.65 กำชับไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ในสังกัด ภ.7 และผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ภ.7 เรื่องแนวทางการปฏิบัติตามผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา โดยกำชับให้ศึกษาข้อกำหนดฯคำสั่ง ประกาศ ที่เกี่ยวข้องตามที่ ศบค.กำหนด
โดยเฉพาะมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ข้อห้าม ข้อยกเว้นและข้อปฏิบัติสำหรับพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง และพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสถานประกอบการและการจัดกิจกรรมตามที่ ศบค.กำหนด จึงกำชับให้เข้มงวด กวดขัน ติดตาม กำชับดูแลและตรวจสอบการลักลอบเปิดสถานบริการสถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะเต็มรูปแบบ
ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 สถานที่ดังกล่าวยังคงปิดดำเนินการ ยกเว้นสถานที่ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เฝ้าระวัง และเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งผ่านการตรวจมาตรฐานตามที่ กระทรวงสาธารณสุขกำหนด (Thai Stop Covid 2 Plus/COVID Free Setting)และได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อในพื้นที่นั้นๆ ให้สามารถเปิดให้บริการได้ ภายใต้เงื่อนไข คือ เปิดบริการ จำหน่ายและบริโภคสุราได้ไม่เกิน 24.00 น., ผู้บริการและบุคลากรได้รับวัคชีนครบตามเกณฑ์ และได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว การบริการที่สัมผัสใกล้ชิดผู้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา และทุกสัปดาห์ให้มีการตรวจ ATK พร้อมประเมินความเสี่ยง Thai Save Thai, ให้บริการเฉพาะผู้ใช้บริการที่แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ และได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยปฏิบัติตามมาตรการ Universal Preventionและแนะนำให้ผู้เสี่ยงติดเชื้อที่จะมีอาการรุนแรง หรือเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว) เลี่ยงเข้าใช้บริการ
ทั้งนี้ ยังกำชับให้จัดชุดปฏิบัติการ/สายตรวจร่วม ออกตรวจสอบสถานบริการ และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการอย่างจริงจังและต่อเนื่องพร้อมประสานคณะกรรมโรคติดต่อจังหวัด เพื่อตรวจสอบข้อมูลสถานบริการหรือสถานประกอบการที่ขออนุญาตปรับรูปแบบให้บริการหรือได้รับอนุญาตเพื่อปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และเป็นข้อมูลในการวางแผนการปฏิบัติงานของชุดสายตรวจร่วมหรือประสานการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่
พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้สถานประกอบการและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรค ข้อห้ามและข้อปฏิบัติต่างๆตามข้อกำหนด รวมถึงแจ้งช่องทางในการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด และกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หากตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่มีการปฏิบัติหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพหรีอปล่อยปละละเลย ไม่สนใจในการสืบสวนจับกุม จะพิจารณาข้อบกพร่องและลงโทษตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews