ตำรวจจ่อออกหมายจับ 3 คนร้ายใช้รถพยาบาลขนยาบ้าและพาหลบหนี พร้อมเรียก สพฉ. – กู้ภัย 9 จังหวัด หารือจัดระเบียบกู้ชีพกู้ภัย
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงความคืบหน้าเหตุการณ์ระทึก รถพยาบาลของอาสากู้ภัยสังกัดมูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่ง ลักลอบขนยาบ้าพร้อมใช้สัญญาณไซเรนเสียงดัง เพื่อเปิดทางหลบหนีตำรวจที่ไล่ล่าระยะประชิดข้ามจังหวัด ตั้งแต่สระบุรี อยุธยา ปทุมธานี ก่อนจะจนมุมต้องจอดรถทิ้งไว้ย่านมีนบุรี และได้โยนของกลางยาบ้ากว่า 2.25 ล้านเม็ดทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทาง จากนั้นมีรถกระบะคล้ายรถกู้ภัยขับตามมา คาดช่วยพาหลบหนี
เบื้องต้น ตำรวจสามารถจับกุม นายสมพงษ์ สุรินทร์คำ อายุ 23 ปี และ นายพิทวัส ไชยสลี อายุ 23 ปี ที่ทำหน้าที่ขับรถกระบะตู้ทึบนำทางได้แล้ว ส่วนนายจิรายุทธ คงดี และ น.ส.ทิพวรรณ ชัยเสนา 2 สามีภรรยาเจ้าของรถพยาบาล และนายชาญณรงค์ พุฒเจริญ หรือไอซ์ คนขับกระบะกู้ภัยพาหลบหนี อยู่ระหว่างติดตามตัวจับกุม และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ ทั้ง 3 ราย
ซึ่งขณะนี้ ตำรวจตรวจยึดรถที่ใช้พาหลบหนีได้แล้ว ในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย กรุงเทพฯ เบื้องต้นมีผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ รวม 5 คน ซึ่งตำรวจจะดำเนินข้อหาเสพติดให้โทษกระทำผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมายอันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน 4 ราย ส่วน 1 รายที่พาหลบหนี อยู่ระหว่างพิจารณาข้อหาให้ที่พักพิง สนับสนุนช่วยเหลือผู้ก่อเหตุรุนแรง
ส่วนพฤติการณ์ของคนร้าย สืบทราบว่า ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยจะทำหน้าที่เป็นชุดรับจ้างลำเลียงยาเสพติด จากชายแดนภาคอีสาน เข้ามาส่งและจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพ และปริมณฑล ได้ค่าจ้างครั้งละ 1.5-3 แสนบาท ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นายจิรายุทธ และนางสาวทิพวรรณ 2 ผัวเมีย ได้ขับรถพยาบาลฉุกเฉินข้ามเขต จากกรุงเทพฯไปรับยาบ้าที่ จ.เลย และมีรถกระบะตู้ทึบ นำทางกลับเข้ากรุงเทพอีกครั้ง
หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลไปยังนายทุน หรือผู้บงการที่สั่งการ 2 ผัวเมีย และตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากพบใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด
ขณะเดียวกัน วันนี้ (7 มิ.ย.) ตำรวจยังได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวจ้อง ทั้งตัวแทนกระทรวงสาธารณสุข, ตัวแทนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ.)ผู้บังคับการตำรวจภูธร 9 จังหวัดในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และมูลนิธิกู้ภัย 9 จังหวัด มาวางแนวทางจัดระเบียบรถพยาบาลฉุกเฉิน และรถกู้ภัย เนื่องจากมีบางส่วนที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง สพฉ. ทำให้ไม่สามารถดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในรายละเอียด จะให้แต่ละหน่วยงานเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีตำรวจเป็นตัวกลาง เพื่อให้ทุกฝ่ายทำงานประสานสอดคล้อง เป็นแนวทางเดียวกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews