แม่แตงโม ยืนยันบังแจ็คส่งมือถือมาให้และไม่โกรธที่โพสต์ FB ส่วนเงิน 3แสน อ้างบังแจ็คโอนให้เพื่อซื้อข้อมูลพยานที่เห็นเหตุการณ์
นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม เปิดเผยหลังเข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.นานกว่า 3 ชั่วโมงเกี่ยวกับการส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโมไปให้บังแจ็คที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยยืนยันว่าต้องการให้บังแจ็คช่วยกู้ข้อมูลและไม่ทราบว่าในประเทศไทย มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถกู้โทรศัพท์มือถือได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ติดต่อกับบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือแต่ไม่ได้ ขณะเดียวกันมีผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหนึ่ง แนะนำให้รับโทรศัพท์ของบังแจ็ค ที่ก่อนหน้านี้พยายามติดต่อมาตลอด จนแม่ตัดสินใจพูดคุยกับ บังแจ็ค
ซึ่งบังแจ็คอ้างว่าทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทุกอย่าง โดยมีผู้มาสารภาพกับบังแจ็ค ว่ารู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทั้งหมด จึงทำให้แม่ตัดสินใจส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค ส่วนการที่บังแจ็คอ้างว่าได้โอนจำนวน 300,000 บาท ให้นั้น ไม่ได้เป็นการจ่ายค่าโทรศัพท์ แต่เป็นการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านเวสเทิร์นยูเนี่ยนให้กับพยานคนหนึ่งในคดี ที่ได้มาเล่าความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบ แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดว่าเป็นใคร
และยังยอมรับว่า บังแจ็ค บอกว่า มีการสำรองข้อมูลโทรศัพท์ของแตงโมไว้แล้วและยืนยันว่าจะส่งโทรศัพท์มือถือคืนกลับมาให้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการโพสต์ภาพและคลิปต่างๆ ของแตงโมลงในโซเชียล ตนเองไม่ได้โกรธบังแจ็ค เพราะมองว่าเป็นผลดีที่จะทำให้คนบนเรือเปิดปากพูดความจริง อีกทั้งในในโทรศัพท์มือถือแตงโมไม่มีภาพโป๊ หรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสม จึงไม่กังวลในประเด็นนี้
ด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า สาเหตุที่นางภนิดา ยอมส่งโทรศัพท์มือถือให้บังแจ็ค เพราะอ้างว่าสามารถช่วยปลดล็อคโทรศัพท์มือถือของแตงโมได้ โดยยืนยัน ไม่มีเรื่องเงินค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ได้หารือกับนางภนิดาแล้ว เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล พร้อมที่จะเปิดข้อมูลหลักฐานสำคัญทุกอย่าง
และขณะนี้ ทราบว่านาฬิกาข้อมือกับสร้อยคอของแตงโม หายไป และอยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลสิ่งของที่สูญหายนี้มากกว่าที่จะให้น้ำหนักกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่บังแจ็คกล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า ในพรุ่งนี้จะพาแม่แตงโมไปพบอธิบดีอัยการภาค 1 เพื่อขอให้สั่งสอบเรื่องคราบเลือดบนเรือ ส่วนในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ จะไปร้องเรียน แพทยสภา ให้ตรวจสอบจริยธรรม แพทย์คนหนึ่งที่ให้คำแนะนำกับพนักงานสอบสวนคดีนี้ จากนั้นจะเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับเอกชนรายหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องคราบเลือดที่พบบนเรือ ที่กองบังคับการปราบปราม
ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. เปิดเผยว่า สำหรับทั้ง 30 ประเด็นที่ได้สอบปากคำนั้น ก็ได้ตอบเคลียร์ชัดเจนในทุกประเด็น ซึ่งนางภนิดาก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังในการติดต่อกับบังแจ็คตั้งแต่แรก ส่วนความจำเป็นที่ต้องส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็คนั้นก็เป็นเพราะอยากจะรู้ความจริง ซึ่งขอเปิดเผยเท่านี้เพราะอยู่ในสำนวน
โดยภายในสัปดาห์นี้บังแจ็คจะส่งโทรศัพท์กลับคืนมา ซึ่งบังแจ็คต้องส่งกลับมาเพราะเป็นทรัพย์สินของทางคุณแม่ ส่วนข้อมูลที่อยู่ในโทรศัพท์จะอยู่ครบหรือถูกเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้นต้องขอดูตัวเครื่องก่อน เพราะก็ยังไม่มั่นใจในตัวของบังแจ็ค ซึ่งควรต้องส่งโทรศัพท์กลับมา ส่วนจะมีการซื้อขายโทรศัพท์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีการซื้อขายก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดีส่วนโทรศัพท์มือถือที่บังแจ็คจะส่งคืนมาให้นางภนิดา ก็ได้รับการยินยอมจากนางภนิดาว่า ทันทีที่ได้โทรศัพท์มือถือคืนมา จะส่งโทรศัพท์ให้กับตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบทันที
และในวันนี้นางภนิดาได้มอบโทรศัพท์มือถือส่วนตัวให้กับตำรวจไซเบอร์เพื่อเก็บข้อมูลไว้แล้วเช่นกัน ขณะเดียวกันยังย้ำว่า ตำรวจไซเบอร์ สอบเฉพาะในประเด็นที่มีการนำภาพในโทรศัพท์มือถือของแตงโม มาเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews