“ชัชชาติ” โชว์จับมือ “ชัยวุฒิ” หลังถกปมสายสื่อสาร ตั้งเป้าจัดระเบียบ 800 กม. ใน 1 ปี ใช้งบ 700 ล้านบาท ลั่นชัดเดือนหน้าเห็นเป็นรูปธรรม
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หารือร่วมกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และบริษัท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ NT ในเรื่องกรุงเทพมหานครเมืองอัจฉริยะ (Bangkok Smart City) และการบริหารจัดการท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดิน
นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง 1.คือการจัดระเบียบสายที่รกรุงรังก่อน ซึ่งอาจจะไม่ต้องนำลงดินทันที แต่อย่างน้อยสายที่ไม่ได้ใช้รื้อออกให้หมดก่อน ซึ่งทาง กสทช. ได้มีแผนอยู่แล้ว และมีเงินอุดหนุนให้ด้วยในการเอาออก เพราะการเอาออกต้องใช้แรงงานในการคัดเลือกสาย
เป้าหมายปีแรก 800 กิโลเมตรในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน 16 เขต ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรและสายสื่อสารหนาแน่น ซึ่งนับได้ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายเพราะตอนนี้ก็เดือน ก.ค.แล้ว ทำไปได้ประมาณ 20 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นต้องผลักดันตามเป้าให้ได้ จากนี้ต้องเอาจริงเอาจริง มีแบบแผน ต้องกำหนด KPI ว่าแต่ละเดือนจะจัดระเบียบเท่าไหร่ มองว่าต้นทุนเท่าเดิมแต่เวลานั้นเป็นเรื่องสำคัญ
2.คือการนำสายสื่อสารลงดิน แต่ก่อน กทม. อาจจะคิดถึงแต่ทาง KT แต่จริงๆแล้วมีผู้ประกอบการอื่นที่มีท่อเกทาอยู่แล้ว เช่น NT หากคิดค่าเช่าท่อแพง อาจเป็นภาระของประชาชน
ทั้งนี้ ทาง KT, NT, กทม. และกสทช. ต้องมาหารืออีกครั้งเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนผู้ใช้บริการ
นายชัชชาติ ยังระบุว่า การจัดระเบียบสายสื่อสารจะมีผลเป็นรูปธรรมตั้งแต่เดือน ส.ค. จะเห็นได้ชัดว่าสายสื่อสารเป็นระเบียบขึ้น ทั้งนี้เตรียมจะบังคับใช้ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ พ.ศ.2535 ในการนำสายที่ตายแล้วออก โดยอนาคตที่จะพาดสายสื่อสารจะต้องขออนุญาตจาก กสทช. ด้วย
ส่วนงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาทที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ นายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นงบที่ทาง KT ทำในโครงการท่อร้อยสารสื่อลงดิน ซึ่งทำให้เพื่อผู้ประกอบการเช่า ซึ่งทำไปแล้วเพียง 7 กม. แต่ไม่มีคนเช่า จึงต้องกลับไปพิจารณา
ด้านชัยวุฒิ กล่าวว่า สำหรับ 800 กม. ใช้งบประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งอนุมัติโดยทางคณะรัฐมนตรี (ครม.)สำหรับการจัดระเบียบสายตายร่วมกับทาง กสทช.
ส่วนการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน บางส่วนเป็นของ กทม. บางส่วนเป็นของ NT จึงจะตั้งคณะทำงานประกอบด้วย กทม., กสทช. และ Operator ซึ่งการนำสายสื่อสารลงดินนั้นจะดูเป็นช่วงๆไป เพราะมีค่าเช่า 2,000-3,000 บาท การนำสายลงดินทั้งหมดอาจเป็นภาระของผู้บริโภค
จึงอาจจะใช้ท่อร้อยสายของ NT ที่มีอยู่แล้ว 4,450 เมตร แต่ต้องไปตรวจศักยภาพก่อน ซึ่งจะใช้เงินลงทุนน้อยกว่าและให้บริการได้เร็วขึ้น ส่วนประเด็นการจัดระเบียบสายตาย เบื้องต้นจะขอความร่วมมือจาก กฟน. และ Operator
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews