พนักงานการท่าเรือร้องดีเอสไอ ให้ตรวจสอบผู้บริหาร
พนักงานการท่าเรือร้องดีเอสไอ ตรวจสอบผู้บริหาร กรณีถูกหลอกให้สมัครกองทุนฯ วอนให้รื้อคดี
วันนี้ (19 ก.ค.65) เวลา10.00น. ทนายกฤษฎา อินทามระ พร้อมด้วยพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย เดินทางมายืนหนังสือร้องเรียนต่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบการบริหารงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทยและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการท่าเรือฯ เข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 4 พันล้านบาท โดยขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
ทนายกฤษฎา กล่าวว่า การท่าเรือและกองทุนฯ สัญญาว่าในวันสมัครเข้าเป็นสมาชิกนั้นการท่าเรือจะจ่ายเงินประเดิมให้พนักงานรวมเป็นเงินประมาณ 4,000 ล้านบาทเข้าไปในบัญชีของพนักงานในกองทุนฯ แต่ความจริงแล้วขณะนั้นการท่าเรือไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวไปจ่ายให้แก่พนักงาน โดยเงินประเดิมนั้นแต่ละคนจะได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับอายุการทำงานตั้งแต่ปีที่เริ่มงานถึงปีที่สมัครเข้ากองทุน ซึ่งทำให้พนักงานหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิกกองทุนกว่า 2,000 คนในปี 2548 – 2549
และเมื่อพนักงานจะออกจากกองทุนฯ พนักงานร่วม 1,000 คนได้รับเงินน้อยกว่าพนักงานที่อยู่ในระบบบำนาญเดิม ซึ่งเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับผู้บริหารการท่าเรือ และผู้บริหารกองทุนฯ จะเห็นได้ชัดว่าฝ่ายผู้บริหารได้รับเงินเมื่อออกจากกองทุน มากกว่าพนักงานหลายล้านบาททั้งที่ผู้บริหารบางคนเงินประเดิมน้อยกว่าหรือเท่ากับพนักงาน
ซึ่งการบริหารงานในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการท่าเรือไม่ได้นำเงินจำนวน 4,000 ล้านบาทไปเข้าบัญชีของสมาชิกในกองทุนตั้งแต่วันที่สมัครตามข้อบังคับนั้น เป็นเหตุให้พนักงานได้รับความเสียหายเป็นกรณีพิเศษเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 มาตรา 3 “ความผิดมูลฐาน” ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน (4)
ความผิดเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์หรือทำโดยทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินหรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ซึ่งกระทำโดยกรรมการหรือผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบหรือมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องในการดำเนินงานของสถาบันการเงินนั้นและ (5) ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมหรือหน่วยงานของรัฐหรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น
ด้านพนักงานการท่าเรือฯ ได้กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากและทุกวันนี้ลำบากมาก สงสารเพื่อนพนักงานด้วยกัน ซึ่งมีเพื่อนพนักงานบางคนได้กลายไปเป็นลูกศิษย์วัดต้องเก็บขวดเก็บขยะขาย และบางคนได้ไปซื้อบ้านเก่าๆอยู่ในสลัมเนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัย วอนสื่อช่วยเหลือพนักงาน
โดยพนักงานส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกองทุนซึ่งทางบริษัทได้จ่ายเงินเป็นเช็ค ไม่มีการแยกและบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเงินให้พนักงานทราบ วันนี้จึงเข้ามายื่นเรื่องกับดีเอสไอเพื่อให้ดีเอสไอรื้อฟื้นคดีเก่าๆ ทั้งหมด โดยตนและเพื่อนพนักงานต้องการความโปร่งใสและความชัดเจน ระหว่างพนักงานกับผู้บริหาร จึงมาร้องขอความยุติธรรม
เบื้องต้น พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษก ดีเอสไอ รับหนังสือไว้ทำการตรวจสอบและเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews