ผบ.ตร. นำแถลงจับผู้ต้องหาหลอกลวงผู้เสียหายลงทุนธุรกิจ S CLUB สูญกว่า 500 ล้าน ยังหลบหนีอีก 1
พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.แถลงจับกุมตัว นายนนทพัทธ์ อายุ 35 ปี นายเด่นธนากร อายุ 37 ปี และนายภาณิธิ อายุ 63 ปีตามหมายจับฐานฉ้อโกงหลอกลวงผู้เสียหายลงทุนธุรกิจ เอส คลับ (S CLUB) โดยผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาพบว่าได้ชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมสัมมนาและได้หลอกให้ร่วมลงทุนกับ บริษัท เอส คลับ ซึ่งเป็นบริษัทที่พาลูกค้าไปเล่น CASINO ทั่วโลกมีรายได้จากการปันผลส่วนแบ่งจากค่าตอบแทนที่ได้รับจากคาสิโนทุกรอบการลงทุนจะแบ่งเป็นแพ็กเกจโดยเริ่มตั้งแต่ 21,000 – 5,000,000 บาท ซึ่งจะนำเงินมาปันผลให้กับนักลงทุนเดือนละ 10.5 เปอร์เซ็นต์ และนักลงทุนยังมีรายได้จากการชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมลงทุนโดยจะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ เช่น ค่า Commission จากการแนะนำ หากสามารถชักชวนให้มีผู้มาลงทุนในแพ็กเกจที่มีมูลค่าสูงขึ้นจะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้นในอัตรา 5-15 % ค่าบริหารทีม 8-10%
การหลอกล่อสมาชิกโดยการการจัดโปรโมชั่น เช่น แจกทองคำ รถยนต์ สิทธิท่องเที่ยวในและต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งในช่วงแรกจะมีการจ่ายผลตอบแทนจริง แต่ภายหลังจะบ่ายเบี่ยงและหลบหนีไป มีผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกกว่า 400 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคและสืบสวน ศปอส.ตร.ชุดที่ 1ร่วมกับ สภ.แก่งคอย ภ.จว.สระบุรี สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสระบุรีเพื่อจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้นดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผบ.ตร.แถลงจับผู้ต้องหาหลอกลงทุนผ่านเกมส์ลัคกี้โดก้า พบเหยื่อ 500 คน เสียหายกว่า 50 ล้านบาท
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงจับกุม น.ส.ธนาพร บุญธนโชติชัย อายุ 25 ปีและ น.ส.ฐิติภา เมธาวารีรักษ์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหากลุ่มกระบวนการฉ้อโกงออนไลน์ หลอกลวงผู้เสียหายลงทุนผ่านเกมส์ลัคกี้โดก้า (Lucky Doca)
โดยร่วมกันหลอกให้ผู้เสียหายซื้อหมาในเกมส์ Lucky Doca ซึ่งสมาชิกจะได้กำไรจากการขายหมาต่อ ให้สมาชิกคนต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาจะเพิ่มจำนวนหมาเข้ามาในระบบ และตั้งราคาเอง โดยหมาจะมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้เงินจำนวนมากแล้วก็จะปิดระบบหนีไป มีผู้เสียหายกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
กลุ่มผู้เสียหายจึงได้เข้าร้องเรียนที่ ศปอส.ตร. โดยคดีนี้พบว่ากลุ่มผู้เสียหายจะเป็นกลุ่มที่หางานทำตามโลกออนไลน์ และได้พบการชักชวนจากกลุ่ม Influencer ทำให้มีผู้เสียหายกระจายเป็นวงกว้างมูลค่าความเสียหายสูงดังกล่าว
ผบ.ตร.กล่าวว่าปัจจุบันการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนมีหลายรูปแบบและเพิ่มมากขึ้นซึ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดก็มักมีการช่องทางต่างๆ ทั้งคำพูด โฆษณา และ แรงจูงใจเพื่อให้ประชาชนสนใจอยากได้เงินเข้าร่วมลงทุน ฝากถึงประชาชนให้ตรวจสอบแหล่งที่มาที่ไปอย่างละเอียดก่อนร่วมลงทุนเพื่อไม่ถูกหลอก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news