“ชูวิทย์” แฉแหลกกลุ่มธุรกิจจีนสีเทาเปิดสถานบันเทิงบ่อนในไทย โยงนักการเมืองใหญ่ จ่ายหนักใช้เป็นหล่อน้ำเลี้ยงเลือกตั้ง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองไทยและเป็นผู้คว่ำวอดในธุรกิจอาบอบนวดและสถานบันเทิง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังตำรวจนครบาลนำกำลังเข้าตรวจสอบสถานบันเทิง ถ.เจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาธร กรุงเทพมหานคร
เมื่อคืนวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา และพบว่าเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดของนักเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน จำนวนกว่า 200 คน ในร้านยังพบยาเสพติดหลากหลายชนิดตกอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีนายทุนคนจีนที่เดินสายสีเทาจำนวนมาก มาลงทุนเปิดสถานบันเทิงเกินเวลา จัดให้มีปาร์ตี้ยาเสพติด และเปิดบ่อนการพนัน กระจายทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดย สถานบันเทิงแบบนี้จะรับลูกค้าที่เป็นคนจีนเท่านั้น มีการรับฝากยาเสพติดที่เสพไม่หมด ไม่ต้องเสี่ยงเจอด่านตรวจตำรวจ
อีกทั้งสถานบันเทิงดังกล่าวไม่ได้เป็นแค่เพียงผับ แต่ยังเปิดเป็นบ่อนการพนันด้วยแถมยังนำสุรา บุหรี่ ยาเสพติดเข้ามาจากประเทศจีน จ้างคนจีนเป็นเด็กเสิร์ฟ จึงเรียกสถานบันเทิงประเภทนี้ว่าผับศูนย์เหรียญ คือ เจ้าของเป็นคนจีน ของทุกอย่างมาจากประเทศจีนหมด
เข้ามาทำธุรกิจสีเทาอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย เรียกว่าไม่เกรงใจคนไทยเลยแม้แต่น้อย เพราะนายทุนจีนชอบจ่ายหนักให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ เลยสามารถเปิดธุรกิจสีเทาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเท่าที่ทราบมี2กลุ่มหลักๆ คือ อักษรย่อ ตห.และนายหมิง มีบ่อนอยู่ในย่านรัชดาภิเษก , สุทธิสาร , ห้วยขวาง , พระราม 2 และพัทยา
นายชูวิทย์ กล่าวว่าขบวนการเหล่านี้ มีเจ้าพ่อเมืองหลวง ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ให้ความคุ้มครอง ที่ทำหน้าที่หาเงินสีเทาเพื่อเอาไปให้กลุ่มการเมือง (ท่อน้ำเลี้ยงการเมือง) เพื่อเป็นทุนในการใช้เลือกตั้งในครั้งต่อไป
ซึ่งตนเองมีข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการนายทุนจีนสีเทา และคนรับเงินผลประโยชน์ ที่ตำรวจต้องรู้ไว้เพื่อปราบปราม โดยจะนำข้อมูลดังกล่าวให้ แก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับโทรศัพท์สายตรงถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อขอให้ช่วยปราบปรามกลุ่มนายทุนจีนธุรกิจสีเทาเหล่านี้เพราะหากปล่อยไว้จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับปากจะนำข้อมูลของนายชูวิทย์ไปตรวจสอบ และยืนยันจะดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง นายชูวิทย์ กล่าวถึงการเสียชีวิตของหญิงชาวจีนในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ก็มาจากการน็อคยาเสพติดในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก โดยมีความพยายามที่จะทำลายหลักฐาน เพื่อไม่ให้เชื่อมโยงเรื่องยาเสพติด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหญิงชาวจีนรายนี้เสียชีวิตมานานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่เรื่องเพิ่งมาแดงในช่วงนี้
นอกจากนี้ ยังเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยให้ตั้งศูนย์ปราบปรามนายทุนจีนธุรกิจสีเทาอย่างจริงจัง คือ ให้ตรวจสอบกลุ่มนายทุนชาวจีนที่เป็นตัวหลัก และควรใช้ตำรวจที่พูดภาษาจีนได้เพื่อให้เข้าใจคนจีน, ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และประสานกับประเทศจีนเพื่อขอประวัตินายทุน และชาวจีนที่เกี่ยวข้อง เพราะถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป จะเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจ ก่อปัญหาสังคม และก่อปัญหาอาชญากรรมแก่ประเทศชาติ มีการฟอกเงินในต่างประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews