ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดม็อบนับ 1 ถึงล้าน ยันไม่มีมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ พร้อมเตรียมออกหมายเรียกนางงามปมแก๊สน้ำตา
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. เกี่ยวกับการดำเนินคดีกับม็อบกลุ่มราษฎร ซึ่งจัดการชุมนุมในชื่อกิจกรรม “นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน” บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและพฤติกรรมของแต่ละคน
โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับทุกคนที่กระทำผิด ส่วนจะมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องดูตามพฤติกรรม แต่มั่นใจว่าคนที่ทำผิดรู้ตัวอยู่แล้ว เช่น ใครเป็นคนใช้ระเบิดเพลิง, ระเบิดควัน,เหล็ก, ไม้, ปาก้อนหิน และพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งปัจจุบันตำรวจได้รับคลิปภาพและเสียงจากสื่อมวลชนจำนวนมาก ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้การตรวจสอบพฤติกรรมความผิดของแต่ละคนชัดเจนและแม่นยำขึ้น
ส่วนประเด็นที่มีแกนนำออกมาระบุว่า การก่อเหตุดังกล่าวมาจากฝีมือของกลุ่มบุคคลที่ 3 นั้น พล.ต.ต.ปิยะระบุว่า จากการตรวจสอบภาพและพยานหลักฐานจะเห็นชัดเจนว่า บุคคลที่ก่อเหตุมีการทักทายปราศรัย รับประทานอาหารร่วมกันกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนนี้เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มบุคคลที่ 3
สำหรับกรณีที่มีผู้เข้าประกวดนางงามรายหนึ่ง โพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย ระบุว่า โดนแก๊สน้ำตาขณะเข้าร่วมชุมนุมนั้น พล.ต.ต.ปิยะ ยืนยันว่า ในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการใช้แก๊สน้ำตา ตามที่มีการกล่าวอ้าง ซึ่งการโพสต์ข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการปฏิบัติหน้าที่ หรือการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยหลังจากนี้อาจจะต้องมีการออกหมายเรียกทุกคนที่มีการโพสต์ข้อความลักษณะนี้มาสอบถามว่า พบเห็นการกระทำใช้แก๊สน้ำตาที่ไหนอย่างไร และหากพบว่าเป็นข้อความเท็จ ก็จะถือว่าเป็นผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งก็จะต้องถูกดำเนินคดีเบื้องต้น ฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาว่า จะแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ท้องที่เกิดเหตุ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ คาดว่าจะสามารถออกหมายเรียกได้ในเร็ว ๆ นี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
