Home
|
อาชญากรรม

อธิบดี DSI ย่องเงียบพบ พงส.แล้ว

Featured Image
“ไตรยฤทธิ์” อธิบดี DSI ดอดพบตำรวจก่อนวันนัดหมาย ยอมรับเซ็นคำสั่งแต่งตั้งชุดปฏิบัติการค้นบ้านกงสุลนาอูรู แต่ไม่รู้เห็นเรื่องการรีดเงิน อ้าง จนท.ทำกันเอง – ตร.เตรียมสรุปสำนวนคดีส่ง ป.ป.ช. สัปดาห์หน้า

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ถูกย้ายไปปฏิบัติราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และปัจจุบันรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนชุดทำงานของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เพื่อให้ปากคำที่สโมสรตำรวจ ในกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมกับตำรวจ191 บุกค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู จนแล้วเกิดปัญหายักยอกของกลาง และเรียกรับประโยชน์

 

สำหรับประเด็นในการสอบสวนนายไตรยฤทธิ์ คืออย่างไรก็ตามการเข้าให้ปากคำครั้งนี้พนักงานสอบสวนมุ่งสอบในทุกประเด็นสงสัย รวมทั้งประเด็นคำสั่งในการตั้งชุดปฏิบัติการด้านการข่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ชปข. ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ และเป็นชุดปฏิบัติการที่เข้าไปปฏิบัติการร่วมกับตำรวจ 191 ในการบุกเข้าไปค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู

 

ว่ามีเหตุผลใดจึงมีการตั้งชุดเฉพาะกิจพิเศษดังกล่าวขึ้นมา และตั้งมาเพื่อปฏิบัติภารกิจด้านใด รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการเข้าค้นบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ย่านสาทร เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร และเป็นผู้อนุมัติตามขั้นตอนหรือไม่

 

โดย อธิบดีดีเอสไอ ยอมรับว่า มีการขออนุมัติการจัดตั้งชุดปฏิบัติการชุดนี้ เพื่อทำการสืบสวนเรื่องดังกล่าว หลังได้รับการร้องขอจากกงสุลนาอูรู ให้ตรวจสอบความผิดปกติที่บ้านหลังดังกล่าว อธิบดีดีเอสไอ ได้ แจ้งเรื่อง ไปที่ ผอ.กอง ให้ไปสืบสวนหาข้อมูล

 

อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่า แต่งตั้งชุดปฏิบัติการ ตามที่เสนอเรื่องเข้ามา ไม่ได้รู้จักใครเป็นพิเศษ พิจารณาตามข้อมูลที่มี โดย คำสั่งเป็นไปตามลำดับขึ้นตอนตามปกติ ซึ่งหลังจากอนุมัติไปแล้ว แต่ไม่ได้กลับมารายงาน ความคืบหน้า พร้อมปฏิเสธรู้เห็นเรื่องการเรียกรับเงิน เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ไปทำกันเอง เพราะไม่ได้กลับมารายงาน และมาทราบจากข่าวที่สื่อนำมาเผยแพร่

 

ส่วนประเด็นการที่ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 นาย เข้าไปตรวจค้นที่คอนโดพบว่าไม่มีหมายค้น และเจ้าหน้าที่กลุ่มนั้นไม่ได้รายงานว่าจะเข้าไปตรวจสอบที่คอนโดด้วย และตนเองไม่ได้สั่งการให้เข้าไปตรวจค้น

 

ในการเข้าให้ข้อมูลของ นายไตรยฤทธิ์ ในครั้งนี้ เข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ด้วยวาจาเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีเอกสาร โดยใช้เวลานาน 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ โดยการเข้าให้ปากคำครั้งนี้เป็นการเดินทางให้ปากคำก่อนวันนัดหมาย จากเดิมที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเข้าให้ปากคำ ในวันศุกร์ที่ 27 ม.ค.เวลา 10.00 น.นี้

 

โดยทันทีที่ทางผู้สื่อข่าวทราบว่า นายไตรยฤทธิ์ จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนได้ไปดักรอที่หน้าห้องสอบสวนภายในสโมสรตำรวจ แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ได้ปิดไฟมืดสนิททั้งหมด เหลือเพียง ไฟบริเวณภายในห้องพนักงานสอบสวนที่ยังเปิดอยู่ กระทั่งต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ได้มีเจ้าหน้าที่เชิญผู้สื่อข่าวให้ออกไปรอด้านหน้าอาคารสโมสรตำรวจ ก่อนที่นายไตรยฤทธิ์ ซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสวมสูทสีเทาดำ กางเกงขายาวสีดำ จะรีบเปิดประตูออกมาจากห้องสอบสวนและ เดินหลบสื่อมวลชนที่ดักรออยู่ ฝ่าความมืดหลบ ออกไปทางประตูด้านข้างสโมสรตำรวจด้วยความรวดเร็วโดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์

 

สำหรับการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ครบถ้วนแล้ว โดยสอบอธิบดีดีเอสไอ เป็นปากสุดท้าย จากนี้ พนักงานสอบสวน จะส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช ภายในสัปดาห์หน้า ตามความผิดในตำแหน่งหน้าที่ ตำรวจยืนยัน ไม่ได้ตัดตอน ทำตามพยานหลักฐานที่มี หากเป็นคดีแล้วสั่งสอบเพิ่มก็สามารถทำได้ เมื่อ ส่ง ป.ป.ช. ไปแล้ว ก็อยู่ที่ป.ป.ช. ว่าจะสอบสวนคดีต่อ หรือส่งกลับมาให้ตำรวจ จะทราบผลภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับคดี

 

ผู้สื่อข่าวมีรายงานด้วยว่า ในส่วนของเงินสดที่หาย ไปนั้น จากการตรวจสอบ พบว่า เงินสดที่เจอในบ้านจำนวน 8.3 ล้าน ส่งคืนเป็นของกลาง กว่า 2 ล้านบาท หายไปประมาณ 5 ล้าน บาท จากนั้นมีการไป เรียกเงินเพิ่มจากกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีน อีก 4 ล้าน รวมเงินสดที่หายไปประมาณ 10 ล้าน บาท

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube