“ทนายกฤษฎา” นําผู้ต้องหา 37 คดีโกงเงินโอที การท่าเรือฯ ส่งให้อัยการสูงสุด พร้อมยื่นสอบพยานเพิ่ม 2 ปาก
วันนี้(29 มี.ค. 66) ทนายกฤษฎา อินทามระ นําผู้ต้องหาซึ่งเป็นพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย เข้ามอบตัวในคดีพิเศษ ของดีเอสไอ กรณีทุจริตเบิกจ่ายค่าล่วงเวลา หรือ โอที ในห้วงปี 2545 – 2555 ทําให้รัฐเสียหายเป็นจํานวนเงินกว่า 3 พันล้านบาท
ทนายกฤษฎา กล่าวว่า คดีดีนี้สืบเนื่องจากปี 2557 ที่ผู้บริหารการท่าเรือได้เข้าร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในขณะนั้น เรื่องการฟ้องพนักงานที่เบิกค่าบ่วงเวลาทั้งที่ไม่ทํางานจริง จนทําให้รัฐเสียหายเป็นจํานวนเงิน 3,300 ล้านบาท เพื่อขอให้ดีเอสไอช่วยตรงจสอบการทุจริตดังกล่าว ต่อมาในต้นปี 2557 ดีเอสไอรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ พร้อมกับส่งให้ ปปช. พิจารณา และส่งกลับมาให้ทางดีเอสไอดําเนินคดีต่อไป
ต่อมาในปี 2560 ดีเอสไอ แจ้งให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเข้ามาเป็นผู้กล่าวหา โดยมีผู้ถูกกล่าวหาคือพนักงานการท่าเรือฯ จํานวน 560 คน โดยใช้เวลาสรุปสํานวนกระมาณ 6 ปี ก่อนจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสิ้น 37 คน จาก 560 คน ส่งตัวพนักงานอัยการคดีพิเศษ สํานักงานอัยการสูงสุด
โดย ทนายกฤษฎา กล่าวเพิ่มว่า ผู้ต้องหาทั้ง 37 คน มอบหมายให้ตนทําหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการ สํานักงานคดีพิเศษ เพื่อให้สีการสอบพยานเพิ่มรวม 2 ปาก ซึ่งคนแรกคือพนักงานการท่าเรือ คนที่สอบคือรักษาการแทน ผอ.การท่าเรือ เนื่องจาก พยานที่ 1 มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ 8 วัน แต่ไม่ได้ขอลา และเมื่อกลับมาได้ขอเบิกค่าล่วงเวลาทั้งที่ไม่ได้ทํางานจริง โดยมีพยานที่ 2 รับทราบและไล่ออกแต่ไม่มีการดําเนินคดีใดๆ อีกทั้งยังใส่ชื่อพยานที่ 1 เพื่อให้มาปักปรําใส่ร้ายผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 560 จนสุดท้ายตกเป็นผู้ต้องจํานวนทั้งสิ้น 37 คน จึงร้องให้ตรวจสอบว่าพฤติกรรมดังกล่าวบ่งชี้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่
ทั้งนี้ ทนายกฤษฎา เผยอีกว่า พนักงานทั้ง 560 คนที่ถูกกล่าวหานั้นต้องถูกสังคมประฌามว่สเป็นคนโกงและทุจริตเงินหลวง และยังทําให้การฟ้องคดีที่ศาลแรงงานเพื่อเรียกค่าล่วงเวลารายชั่วโมงต้องแพ้คดีไปทั้งหมด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews