Home
|
อาชญากรรม

ด่วน!ศาลออกหมายจับแอมมี่วางเพลิงคุกคลองเปรม

Featured Image
ศาลอาญา ออกหมายจับ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ผู้ก่อเหตุเผาทำลายทรัพย์สินราชการ หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ออกหมายจับ นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 429/2564 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2564 ในข้อหา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

โดยมีรายงานเพิ่มเติม ว่า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับ นายไชยอมร หลังชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ก่อเหตุใช้รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เป็นยานพาหนะ ที่ใช้ก่อเหตุเผาทำลายทรัพย์สินราชการ หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม

จนทราบมีผู้ร่วมก่อเหตุ ทั้งหมด 3 คน โดย นายไชยอมร เป็นผู้ลงจากรถไปก่อเหตุวางเพลิง ส่วนอีก 2 คนอยู่ในรถดังกล่าว ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ให้ชัดเจนอีกครั้ง

มีรายงานด้วยว่า ขณะนี้ นายไชยอมร มีอาการป่วย พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ย่านพระรามเก้า ซึ่งชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น นำกำลังไปที่โรงพยาบาลแล้ว โดยพร้อมจะนำหมายไปแจ้งข้อหา และควบคุมตัวทันที รวมทั้ง ประสานแพทย์ถึงการย้ายไปควบคุมที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้หรือไม่

โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจ ขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ก่อเหตุ 3 คน ในความผิดฐาน วางเพลิงเผาทรัพย์,ทำให้เสียทรัพย์, บุกรุกในเวลากลางคืน และความผิดตามมาตรา 112 พร้อมยืนยันว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจน และระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องร้ายแรง และสะเทือนจิตใจ ตำรวจจะดำเนินคดีถึงที่สุด

และสำหรับกรณีที่มีชายยืนปัสสาวะบนตู้คอนเทนเนอร์ โดยด้านล่างเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน นั้นหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นเจ้าหน้าที่คงไม่อดทด อดกลั่นถึงขนาดนี้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะทำการพิสูจน์ทราบว่าเป็นใคร โดยเจ้าหน้ามีภาพชัดเจนแล้ว และชายคนดังกล่าวจะมีความผิดในข้อหาการดูถูกเยียดหยามเจ้าหน้าที่

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube