Home
|
อาชญากรรม

อัจฉริยะ ร้อง ไซเบอร์ เอาผิดดารา โฆษณาอาหารเสริมเกินจริง

Featured Image

 

 

 

อัจฉริยะ ร้อง ตำรวจไซเบอร์ เอาผิดดารา โฆษณาอาหารเสริม อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง พร้อมเอาผิด 2 บริษัทผู้ผลิต

 

 

 

วันนี้ (9 พ.ค. 67) ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ยื่นร้องทุกข์กล่าวกลุ่มนางงามและนักแสดง รวมถึงบริษัทที่กระทำความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ที่โฆษณาโอ้อวดอาหารเสริมสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่า 20 กก. อันเป็นเท็จ โดยมี พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เป็นผู้รับหนังสือ

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการดำเนินการไปแล้ว 2 ราย โดยวันนี้เดินทางมาดำเนินคดีกับอีก 2 บริษัท และอดีตนางงาม นัดแสดง เนื่องจากว่าบริษัทแรก อดีตนางงามนักแสดงกับพวก รวมทั้งนักร้อง ดารา เป็นพรีเซนเตอร์ และอีกบริษัทหนึ่งมีการอ้างว่าสามารถลดน้ำหนักได้ สามารถลดหน้าท้องได้ จึงมีการพิสูจน์ว่าไม่สามารถลดได้จริง มีการโฆษณาที่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 40 และ 41 พระราชบัญญัติอาหาร 2552 โดยมีพฤติการณ์จะอ้างว่าอาหารเสริมมีสรรพคุณหลังกองที่บอกว่าสามารถลดน้ำหนักได้ 4 เดือนประมาณ 25 กิโลกรัม

 

ซึ่งตนมองว่าเป็นไปไม่ได้และมีการพิสูจน์แล้วว่าอาหารเสริมไม่สามารถลดน้ำหนักได้จริง ขณะที่อีก 1 บริษัทเป็นบริษัท ที่อดเอาว่าลดน้ำหนักลดพุงได้ถือเป็นการโฆษณาที่โอ้อวดเกินความเป็นจริงและการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบอันเป็นเท็จเพราะมีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่าไม่สามารถลดได้จริงและข้อความที่มีการโฆษณาโอ้อวด เป็นการโฆษณาอาหารเสริมให้เป็นยาในการลดน้ำหนัก

 

ส่วนข้อความที่ใช้โฆษณาได้ระบุว่า ลงไว ลงเร็วกว่าเดิม เพิ่มสารสกัด นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ไม่โย่ ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกายบ่อย ง่ายๆ ทานแค่ 1-2 เม็ด สูตรใหม่เข้มข้น ตัวจบ…สายดื้อ ลองมาเยอะแค่ไหน เอาอยู่ ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น ความจริงคุณสมบัติของอาหารเสริมไม่สามารถทำให้น้ำหนักลดลงได้ หรือลงไว ลงเร็วกว่าเดิม ไม่โย่ ไม่ต้องอดอาหาร ตามที่มีการโพสต์โฆษณา และวิดีโออันเป็นเท็จ มีการเผยแพร่เป็นสาธารณะที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก หลงเชื่อหากปล่อยให้มีการเผยแพร่จะเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง วันนี้ตนจึงเดินทางมาร้องทุกข์ขอโทษให้ดารากับพวก และนางงามรวมทั้งนักร้องที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาที่มีภาพปรากฏและมีวีดีโอปรากฏใน Facebook และสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตามตนเดินทางมาเพื่อให้ทางสอท. เดินทางไปตรวจสอบโรงงานผู้ผลิตว่าส่วนผสมทั้งหมดที่อวดอ้างรถน้ำหนักได้จริงไหม และมีสารต้องห้ามหรือไม่ อีกหนึ่งประเด็นคือใครเป็นผู้ว่าจ้าง และให้ไปดูผู้จัดจำหน่ายเพราะทั้งของบริษัท โดยจะแยกเป็น 3 คือ 1 บริษัทจ้างผลิต 2 คือโรงงานผลิตและ 3 บริษัทที่จัดจำหน่าย รวมถึงบริษัทที่รับเงิน โดยการกระทำแบบนี้ถือเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

 

ซึ่งสินค้าดังกล่าวเปิดขายมาประมาณ 1 ปี แต่ยังมีอีกหลายเจ้าที่ยังโฆษณาโอ้อวด รวมทั้งบางบริษัทมีการวางขายในพรรคการเมืองตนก็จะมีการดำเนินการในเช่นเดียวกัน วันนี้ตนได้นำหลักฐานเป็นทั้งไฟล์วีดีโอและภาพที่ใช้โปรโมทอาหารเสริมตัวดังกล่าวมายื่นให้กับทางตำรวจไซเบอร์เพื่อตรวจสอบพิจารณาดำเนินคดี

 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ จะต้องดำเนินการส่งฝ่ายกฎหมายและดูว่าขึ้นกับทางสอท.ใดเป็นผู้รับผิดชอบต้องมีการสืบสวนสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปลาย แล้วต้องตรวจเอกสารยังเป็นกลางและตามข้อเท็จจริง จึงขอเวลาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบก่อนและจะส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการ โดยทางตำรวจไซเบอร์เองจะรับผิดชอบในส่วนของพรบ.คอมพิวเตอร์

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube