พิมพ์ กรกนก ร้อง ตำรวจไซเบอร์ ลากตัวมือดีปล่อยคลิปลับ ยัน เอาผิดถึงที่สุด วอนประชาชนช่วยกด Report – ด้านผู้การไซเบอร์ 1 ชี้ เตรียมเอาผิดคนแชร์ต่อด้วย
วันนี้ (13 พ.ค. 67) ที่ บก.สอท.1 นางสาวกรกนก หรือพิมพ์ อายุ 23 ปี นางแบบชื่อดัง พร้อม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางมาเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือตำรวจไซเบอร์ 1 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีถูกผู้ไม่หวังดีปล่อยคลิปส่วนตัวเองกับแฟนเก่าผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จนทำให้ได้รับความเสียหาย
นางสาวกรกนก กล่าวว่า แฟนคนดังกล่าวของตนได้เลิกรากันไปตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนสิงหาคมหรือกันยายนปีที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุฝ่ายชายที่เป็นแฟนเก่าได้มีการทักมาพูดคุยเพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนปล่อย แต่เขายอมรับว่ายังไม่ได้ลบคลิป ซึ่งตนก็เชื่อคำพูดของฝ่ายชายเพียงแค่ 50:50 เท่านั้น เพราะยังไม่ชี้ชัดได้ว่าฝ่ายชายเป็นคนปล่อยหรือไม่ อีกทั้งฝ่ายชายก็อ้างว่าไม่ได้นำมือถือไปส่งซ่อมแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม หลังเลิกรากันก็ได้ตกลงกันแล้วว่าจะต้องลบคลิปส่วนตัวเหล่านั้นทิ้ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมฝ่ายชายถึงไม่ยอมลงคลิป
โดยนางสาวกรกนก เผยว่า ตอนนี้เริ่มมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เพราะมีหลายคนที่ส่งกำลังใจให้ รวมทั้งหลายคนก็ให้เกียรติด้วยการไม่แชร์ต่อและช่วยกันกด Report คลิป อีกทั้งยังมีผู้หลักผู้ใหญ่หลายฝ่ายเข้ามาให้การช่วยเหลือ และเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เข้าใจว่าคนที่ปล่อยคลิปมีวัตถุประสงค์อะไร ทำไมต้องใจร้ายกับตนด้วย ซึ่งขอความเห็นใจแก่โซเชียลมีเดียว่า
โปรดให้เกียรติตน หากเห็นคลิปดังกล่าว ก็ขอไม่แชร์ต่อ อย่าดู หรือช่วยกันกด Report จะดีที่สุด ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่ได้มาแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพราะตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทางกฎหมาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ เปิดเผยว่าหลังจากนี้ นอกจากจะต้องให้ทางพนักงานสอบสวนหญิงสอบปากคำนางสาวกรกนกแล้ว จะใช้เครื่องมือพิเศษของตำรวจไซเบอร์ในการตรวจวิเคราะห์บรรดา Social Media ต่าง ๆ ที่มีการแชร์คลิป รวมทั้งจะออกหมายเรียกแฟนเก่า ของนางสาวกรกนก ซึ่งถือเป็นต้นตอหลักมาให้ปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวอีกว่า ตนจะดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่นำคลิปมาเผยแพร่และแชร์ต่อ ไปจนถึงผู้ที่อยู่ในกลุ่มแชร์คลิป ซึ่งจะเอาผิดทั้งตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ม.328 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 2 ปี และเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ม.287 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี อีกทั้งจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(4) และ (5) ทั้งนำเข้าข้อมูลลามกสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลลามกดังกล่าว ซึ่งต่างมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี
โดยเน้นย้ำว่า นอกจากจะเอาผิดถึงผู้ที่นำคลิปมาลงในโซเชียลมีเดียแล้ว จะเอาผิดถึงคนที่แชร์ต่อตามโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ใครเป็นคนแชร์ คนนั้นก็มีความผิดด้วย ซึ่งถ้าหากตรวจสอบแล้วสามารถพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นผู้แชร์บ้าง ก็จะออกหมายเรียกมาดำเนินคดีทั้งหมดโดยไม่ละเว้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews