“ด่านคืนชีพ”ทั่วประเทศเริ่ม1เม.ย.นี้
ตร. พร้อมคืนชีพด่าน ทั่วประเทศเริ่ม 1 เม.ย.นี้ ย้ำ โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมวางแผนรับมือสงกรานต์ คาดปีนี้มี ปชช. ออกต่างจังหวัดจำนวนมาก
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ภายหลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งอยดสุข ผบ.ตร. ได้ออกคำสั่งไป เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 โดยให้ทุกพื้นที่รับทราบมาตรการของ ตร. ซึ่งให้มีการตั้งด่านได้ แต่ต้องมีความพร้อมตามมาตรฐานที่ ตร.กำหนด
คือ มีความโปร่งใส เป็นมาตรฐานโดยประชาชน สามารถตรวจสอบได้โดยใช้เทคโนโลยี เช่นการใช้กล้อง cctv เคลื่อนไหวได้ที่จะต้องมีประจำตัวเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจ และด่านต่าง ๆ เช่น ด่านกวดขันวินัยจราจร ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ด่านตรวจวัดมลพิษทางอากาศ ด่าน อาชญกรรม ฯลฯ โดยจะต้องมีมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้ ได้มีการทำฐานข้อมูล TPCC (Traffic Police Checkpoint Control) เพื่อกำหนดจุดตั้งด่าน ลงรายชื่อผู้ปฏิบัติในด่านต่าง ๆ ลงในแผนที่ซึ่งผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบได้ ว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ในจุดใดบ้าง มีการซ้ำซ้อนกันหรือไม่ หรือได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการหรือไม่
อีกทั้งการตั้งด่านจะต้องมีเหตุผลในการตั้ง เช่น บริเวณจุดตั้งด่านมีอาชญากรรมสูง, มีการขับรถเร็ว, เป็นทางผ่านขนยาเสพติด หรือมีสถานบริการอยู่จำนวนมาก ที่ต้องตั้งเพื่อป้องปราบผู้ที่เมาแล้วขับ ยกเว้นกรณีเดียว ที่ไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการในกรณีฉุกเฉิน คือ การสกัดจับคนร้าย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก ด้านการจราจรประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ปีนี้รัฐบาลกำหนด วันที่ 10-16 เมษายน เป็นช่วง 7 วันอันตราย ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะเดินทางออกนอกกรุงเทพมหานคร ประมาณวันที่ 9-10 เมษายน และทยอยเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 15-18 เมษายน
โดยคาดการณ์ว่า ปริมาณผู้เดินทางออกต่างจังหวัด จะใกล้เคียงกับสงกรานต์ ปี 2562 เบื้องต้น จึงได้เตรียมการเรื่องเส้นทางต่าง ๆ ช่วงมอเตอร์เวย์ ตั้งแต่ลำตะคอง ถึงสีคิ้ว โดยจะมีการเปิดใช้เส้นทางเพิ่ม 2 ช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 9-13 เมษายน และขากลับตั้งแต่ วันที่ 14-19 เมษายน เชื่อว่าจะแบ่งเบาการจราจรไปทางถนนมิตรภาพได้เยอะพอสมควร และจะทำให้การจราจรไม่ติดขัดจนเกินไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news