โฆษก สตม. บูรณาการฝ่ายความมั่นคงติดตามข่าวชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมป้องกันหลบหนีเข้าพื้นที่ชั้นใน ขณะผู้ต้องกักยังไม่พบติดเชื้อโควิดเพิ่ม
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.(INN) ว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มีการบูรณาการและประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครองเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทยเมียนมา โดยเฉพาะที่ อ.แม่สะเรียง และที่อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีชาว Myanmar ชาวกะเหรี่ยง ได้หนีภัยการสู้รบเข้ามาในประเทศไทย โดยการดูแลชาวเมียนมาที่เข้ามารวมถึงการตั้งศูนย์อพยพใกล้กับชายแดนนั้นฝ่ายความมั่นคงทหารฝ่ายปกครองจะเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล ส่วนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะคอยป้องกันและบังคับใช้กฎหมาย พรบ.คนเข้าเมืองฯ กรณีมีการลักลอบหรือหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งมีการประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวันเนื่องจากเกรงว่าชาว เมียนมา จะอพยพและทะลักเข้ามาฝั่งไทยมากขึ้น จึงมีการเตรียมความพร้อม แต่ในภาพรวมขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังดูแลได้ และด่านความมั่นคงหรือจุดตรวจต่างๆ ยังคงอยู่ และที่ผ่านมาช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 มาตรการเหล่านี้ยังรับมือได้
โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังกล่าวถึงกรณี ผู้ต้องกักที่สถานกักกันบางเขนติดเชื้อโควิด-19 จนต้องมีการจัดตั้ง รพ.สนามชั่วคราวว่า ขณะนี้สถานการณ์เรียบร้อยดี ยังไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม หรืออาการหนักและบางคนหายจากอาการป่วยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำการกักตัวจนครบ 14 วัน จากกนั้นจะทำการผลักดันกลับประเทศ โดยจะไม่นำไปกักที่ ตม.สวนพลู เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยง รวมถึงไม่รับผู้ต้องกักเข้ามาเพิ่มทั้งที่สถานกักบางเขน หรือ ตม.สวนพลู เพราะหากมีการจับกุมเพิ่มทางหน่วยงานนั้นๆ ก็จะมีการบริหารจัดการตามมาตรการอยู่แล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
