Home
|
อาชญากรรม

“พร้อมพงศ์” ร้อง ดีเอสไอ สอบฮั้วประมูลระบบคลาวด์ 1 พันล้าน

Featured Image
“พร้อมพงศ์” อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร้องดีเอสไอ ตรวจสอบการฮั้วประมูลระบบคลาวด์ 1 พันล้านบาท ชี้มีชื่อกรรมการทับซ้อนกันหลายบริษัท

 

 

 

วันนี้(5 ก.ค. 67) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อและอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้ดําเนินการตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมี ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบและโฆษกฯเป็นผู้รับเรื่อง

 

 

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนมากจากประชาชนเกี่ยวกับการฮั้วประมูลระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของประเทศ ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มอบหมายให้บริษัทรัฐวิสาหกิจชื่อดังดําเนินการในงบประมาณ 1 พันล้านบาท

 

 

จากการตรวจสอบพบว่าขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างเลือกใช้วิธีการเชิญชวนเฉพาะแทนวิธีการประกวดราคา (e-Bidding) และได้เชิญบริษัทเข้ามาเสนอราคาเพียง 7 บริษัท ซึ่งปรากฏว่าใน 7 บริษัท มีรายชื่อบุคคลคนเดียวกันเป็นกรรมการอยู่ 3 บริษัทและมuรายชื่อบุคคลคนเดียวกันเป็นผู้ถือหุ้น 2 บริษัท นอกจากนี้ในขั้นตอนการเสนอราคา มี 5 บริษัท ขอถอนตัวออกไปก่อนวันประมูลราคา ทําให้เหลือเพียง 2 บริษัท

 

 

โดยบริษัทที่ชนะการประมูลเสนอราคาที่ 991,136,720 บาท ส่วนบริษัทที่แพ้การประมูลเสนอราคาที่ 992,805, 920 บาท ซึ่งมีราคาต่างกันเพียง 0.16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ตามหลักวิชาการของ ป.ป.ช. การเสนอราคาตํ่ากว่า 1 เปอร์เซ็นต์ จึงเข้าข่ายพฤติการณ์น่าสงสัยว่าอาจจะมีการฉ้อโกงและทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง และที่สำคัญทั้ง 2 บริษัทที่เหลือ

 

 

ทราบว่ามีหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัทที่ชนะการประมูล เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในอีกบริษัทที่เคยค้าร่วมกับบริษัทที่แพ้การประมูล จึงน่าจะไม่ใช่คู่แข่งทางการค้าและน่าเชื่อว่าการจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนี้ น่าจะเข้าข่ายการสมยอมราคากัน หรือฮั้วประมูลกันหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบ เพราะปัจจุบันโครงการดังกล่าวยังไม่ดำเนินการ เนื่องจากรองบประมาณ หากปล่อยไว้จะต้องเกิดความเสียหาย

 

 

ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า เบื้องต้นทางดีเอสไอได้รับเรื่องไว้ดําเนินการตรวจสอบ โดยจะให้กองคดีฮั้วประมูลเร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด ส่วนรายละเอียดอื่นๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ยืนยันจะต้องเรียกบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้ง 7 บริษัทเข้ามาอย่างแน่นอน

 

 

นอกจากนี้นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงเรื่องการขโมยสายไฟเคเบิ้ลทองแดงของบริษัทชื่อดังด้วยว่า กรณีที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายหลายพันล้านบาท ซึ่งตนเองมองว่าอาจจะมีคนในรู้เห็นเป็นใจในการชี้จุดเก็บ ซึ่งมีการนําเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงถือว่ามีความผิดตาม ม.157 โดยในสัปดาห์หน้าตนจะนํา 2 เรื่อง

 

 

นี้ไปยื่นให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ หากเชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐจะมีการไปต้องยื่นหนังสือกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube