ตร.ทางหลวง ไล่ตามรถตู้ทึบซึ่งหลบหนี ตรวจเจอยาบ้า 120 เม็ด ยอมรับซื้อมาเพื่อเสพ
พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนําโดย ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รอง สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นายศรายุทธ์ฯ อายุ 40 ปี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมออกตรวจป้องกันและปราบปราบการกระทำความผิดทางอาญาและ พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญา ในเขตรับผิดชอบทางหลวงหมายเลข 3138 จนมาถึงระหว่าง กม.14 – 15 มุ่งหน้าอำเภอบ้านค่าย ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน สีส้ม จอดอยู่บริเวณไหล่ทางด้านซ้าย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จอดรถด้านหลังรถคันดังกล่าว เพื่อจะสอบถามว่ารถคันดังกล่าวมีปัญหาอุปสรรคอย่างใดหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเองผู้ขับขี่ได้ขับรถออกไปในทันที โดยมีลักษณะมีพิรุธ น่าสงสัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับรถติดตาม และทำการหยุดรถคันดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบนายศรายุทธ์ อายุ 40 ปี แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ โดยมีลักษณะคล้ายคนมึนเมา พูดจาวกวนไปมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สอบถามนายศรายุทธ์ฯ จนให้การยอมรับว่าตนเองเสพยาบ้ามา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขอตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้า บรรจุอยู่ในถุงซิปพลาสติกสีน้ำเงินจำนวน 1 ถุง ภายในมียาบ้าบรรจุอยู่จำนวน 120 เม็ด
โดยนายศรายุทธ์ ยอมรับว่าของกลางยาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดเป็นของกลาง และได้เชิญตัวนายศรายุทธ์ มาเพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดเบื้องต้น ซึ่งผลปรากฎว่าเป็นบวก จากนั้นส่งตรวจเพื่อยืนยันผลที่โรงพยาบาลบ้านบึง โดยผลการตรวจจากทางโรงพยาบาลบ้านบึง ให้ผลเป็นบวก จึงแจ้งข้อกล่าวหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)
โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย” จากนั้นคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองกิ่ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การยอมรับสาภภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่ายาบ้าทั้งหมดซื้อมาเพื่อเสพ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
